ทำความรู้จักลิขสิทธิ์ทางปัญญา ทำไมครีเอเตอร์ควรรู้? ตัวช่วยสำคัญ

Copyright
Photo credit : www.canva.com

ลิขสิทธิ์ทางปัญญา หรือ ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property หรือ IP) คือ ทรัพย์สินที่มนุษย์ประดิษฐ์ สร้างสรรค์ หรือคิดค้นขึ้น ทั้งในรูปแบบของผลงานที่จับต้องได้ เช่น ภาพวาด รูปปั้น งานศิลปะต่าง ๆ นวนิยาย เพลง ดนตรี เป็นต้น และผลงานที่จับต้องไม่ได้ เช่น ความคิดเห็น องค์ความรู้ รูปแบบและกรรมวิธีการผลิต ชื่อเสียงความนิยมของชื่อการค้า


ในยุคดิจิทัลที่ผลงานสร้างสรรค์สามารถเผยแพร่ไปทั่วโลกในเสี้ยววินาที ความรู้เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ทางปัญญาจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับครีเอเตอร์ (Creators) ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน ศิลปิน นักดนตรี นักพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือผู้สร้างเนื้อหาดิจิทัล การเข้าใจและนำหลักการของลิขสิทธิ์ทางปัญญามาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียนลิขสิทธิ์หรือการซื้อขายลิขสิทธิ์ เพราะความรู้เรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องผลงานของตนเองจากการถูกละเมิด แต่ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการทำธุรกิจและการตลาด


บทความนี้ RHINOSHIELD จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับลิขสิทธิ์การออกแบบให้มากขึ้น เพื่อให้ทุกคนได้นำไปปรับใช้กับงานสร้างสรรค์ของตนเอง และนอกจากนี้ RHINOSHIELD ยังสนับสนุนลิขสิทธิ์ทางปัญญากับศิลปินที่ร่วมออกแบบลวดลายบนเคสโทรศัพท์มือถือ บอกได้เลยว่าจะทำให้โทรศัพท์ของคุณ สวย มีสไตล์ ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูทั้งหมดในบทความนี้กันเลยดีกว่า!

สำรวจไปด้วยกันว่าประเภทของลิขสิทธิ์ทางปัญญามีประเภทไหนบ้าง

ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ RHINOSHIELD จะพาทุกคนไปดูกันก่อนว่าลิขสิทธิ์ทางปัญญาหรือทรัพย์สินทางปัญญามีกี่ประเภท โดยประเภทที่จัดแบ่งเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ทางปัญญาที่มีบทบาทและนิยมนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจมากที่สุดในปัจจุบัน 

ลิขสิทธิ์

ลิขสิทธิ์ทางปัญญาประเภทแรกที่ RHINOSHIELD จะพูดถึงเป็นประเภทที่มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ และชีวิตประจำวันมากที่สุดก็คือ ลิขสิทธิ์


ลิขสิทธิ์ หมายถึง สิทธิ์ในความเป็นเจ้าของผลงานที่มีลิขสิทธิ์ ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นและได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ ซึ่งลิขสิทธิ์มอบสิทธิ์เฉพาะให้กับผู้สร้างสรรค์หรือเจ้าของผลงานในการใช้และควบคุมการเผยแพร่ผลงานเหล่านั้น ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการรักษาสิทธิ์และปกป้องผลงานจากการถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยผลงานประเภทต่าง ๆ ที่ได้รับการคุ้มครองมีดังต่อไปนี้

  1. วรรณกรรมทางภาษา : หนังสือ บทความ นวนิยาย สิ่งพิมพ์ คำร้อง บทวิเคราะห์

  2. วรรณกรรมทางคอมพิวเตอร์ : โปรแกรมคอมพิวเตอร์ แอปพลิเคชัน

  3. ดนตรีกรรม : เพลง ทำนอง โน้ตเพลง

  4. ภาพยนตร์ : ภาพยนตร์ เสียงประกอบ และเสียงพากย์

  5. โสตทัศนวัสดุและสิ่งบันทึกเสียง : แผ่น DVD แผ่น CD

  6. งานแพร่เสียง แพร่ภาพ : รายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ

  7. นาฏกรรม : ท่ารำ ท่าเต้น การแสดง

  8. ศิลปกรรม : งานประติมากรรม งานจิตรกรรม ภาพถ่าย ภาพพิมพ์

  9. สถาปัตยกรรม : การออกแบบสิ่งปลูกสร้าง และการออกแบบและตกแต่งภายในและภายนอก

  10. งานภาพประกอบ : แผนที่ ภาพร่าง โครงสร้าง งานสร้างสรรค์รูปทรงสามมิติเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ หรือวิทยาศาสตร์

  11. งานอื่น ๆ ที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์

Copyright
Photo credit : www.canva.com

เครื่องหมายการค้า

เครื่องหมายการค้าเป็นลิขสิทธิ์ทางปัญญาประเภทหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในธุรกิจ การมีเครื่องหมายการค้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจหรือกิจการใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้าขายสินค้า การให้บริการ หรือการรับจ้าง เครื่องหมายการค้าทำหน้าที่ในการระบุตัวตนของธุรกิจหรือกิจการนั้น ๆ ทำให้ผู้บริโภคสามารถแยกแยะธุรกิจของคุณจากธุรกิจอื่น ๆ ได้ชัดเจน นอกจากนี้ เครื่องหมายการค้าไม่ว่าจะได้รับการจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าแล้วหรือไม่ ก็ยังคงมีความสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับธุรกิจ

Trademark
Photo credit : www.canva.com

สิทธิบัตร

ลิขสิทธิ์ทางปัญญาประเภทนี้มีความสำคัญกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านการออกแบบ ค้นคว้า วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งสิทธิบัตรเป็นเครื่องมือสำคัญในการคุ้มครองผลงานที่เกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์และการออกแบบ ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร โดยสามารถแบ่งออกเป็นสิทธิบัตรประเภทต่าง ๆ ดังนี้


  1. สิทธิบัตรการประดิษฐ์ : คุ้มครองการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือกรรมวิธีใหม่ที่มีขั้นตอนการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น เช่น การคิดค้นเทคโนโลยีหรือวิธีการผลิตที่ไม่เคยมีมาก่อน

  2. สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ : คุ้มครองการออกแบบรูปร่าง ลวดลาย สี หรือองค์ประกอบภายนอกของสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ที่มีการสร้างสรรค์ใหม่ ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์มีลักษณะที่โดดเด่นและแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่น

  3. อนุสิทธิบัตร : คุ้มครองการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือกรรมวิธีใหม่ที่มีความสร้างสรรค์ แต่ไม่ซับซ้อนเท่ากับสิทธิบัตรการประดิษฐ์

Patent
Photo credit : www.canva.com

ทรัพย์สินทางปัญญาอื่น ๆ 

นอกจากลิขสิทธิ์ทางปัญญาทั้ง 3 ประเภทที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ก็ยังมีลิขสิทธิ์ทางปัญญาประเภทอื่น ๆ ที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งก็มีความสำคัญทางธุรกิจเช่นเดียวกัน โดยทรัพย์สินทางปัญญาประเภทอื่น ๆ มีดังนี้


ความลับทางการค้า

ความลับทางการค้าคือข้อมูลที่มีมูลค่าทางการค้า ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักหรือเข้าถึงได้โดยทั่วไป ข้อมูลเหล่านี้ถูกค้นพบ คิดค้น รวบรวม หรือสร้างสรรค์ และได้รับการรักษาไว้เป็นความลับตามพระราชบัญญัติความลับทางการค้า ตัวอย่างเช่น สูตรอาหาร สูตรเครื่องดื่ม กรรมวิธี เทคนิค และความรู้ต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตหรือดำเนินธุรกิจ


แบบผังภูมิของวงจรรวม

หมายถึงการออกแบบที่ซับซ้อนของวงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์ (Integrated Circuit: IC) เช่น หน่วยประมวลผล หน่วยความจำ และชุดแผงวงจรหลัก การคุ้มครองนี้ครอบคลุมการจัดวางและการเชื่อมต่อของวงจรตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแบบผังภูมิของวงจรรวม การปกป้องแบบผังภูมิของวงจรรวมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้พัฒนาและผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันการคัดลอกหรือใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต

ก่อนจดทะเบียนลิขสิทธิ์ มาดูหลักเกณฑ์การพิจารณากันก่อนดีกว่า

สำหรับนักสร้างสรรค์ที่ต้องการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ให้กับผลงานสร้างสรรค์ของตนเองนั้น ไม่ว่าจะเป็นงานเขียน การออกแบบลวดลาย งานศิลปะ ฯลฯ รู้หรือไม่ว่าการที่จะจดทะเบียนได้นั้น ผลงานของคุณจะต้องตรงตามหลักเกณฑ์ของการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ โดยผลงานที่จะจดทะเบียนได้นั้นจะต้องเข้าหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้

เป็นงานที่แสดงออกถึงความคิด (Expression of Idea)

งานที่ริเริ่มสร้างสรรค์ด้วยตนเอง (Originality)

การทุ่มเทกำลัง ความรู้ ความสามารถ ในการสร้างสรรค์ (Sweat & Labour and Judment)

มีลักษณะเข้าข่ายตามประเภทของงานที่กฎหมายลิขสิทธิ์รับรอง

งานต้องไม่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดี

หากงานของคุณเข้าตามหลักเกณฑ์ทั้งหมดนี้ ก็เตรียมตัวรวบรวมเอกสารต่าง ๆ ไปจดทะเบียนลิขสิทธิ์ได้เลย โดยสามารถทำได้ทั้งการขอยื่นจดด้วยตนเองที่ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ หรือยื่นจดลิขสิทธิ์แบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา

การซื้อขายลิขสิทธิ์ / “การโอนสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา” คืออะไร

เมื่อนักสร้างสรรค์ได้นำผลงานของตนเองไปจดทะเบียนลิขสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในวันหนึ่งเกิดมีบุคคลหรือบริษัทมีความสนใจในงานของครีเอเตอร์ และอยากได้สิทธิ์ในงานที่มีลิขสิทธิ์ทางปัญญาชิ้นนั้น ซึ่งครีเอเตอร์สามารถทำการซื้อขายลิขสิทธิ์ของงานนั้นได้เช่นกัน


โดยการโอนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาหรือการซื้อขายลิขสิทธิ์ทางปัญญา หมายถึงกระบวนการที่ผู้โอน เช่น เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาหรือผู้ทรงสิทธิ โอนสิทธิความเป็นเจ้าของในลิขสิทธิ์ทางปัญญานั้นอย่างเด็ดขาดให้แก่ผู้รับโอน ซึ่งอาจเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ที่จะกลายเป็นเจ้าของหรือผู้ทรงสิทธิรายใหม่ การโอนสิทธินี้สามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีต่าง ๆ ดังนี้

การโอนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาโดยมีค่าตอบแทน

เป็นการโอนสิทธิความเป็นเจ้าของในทรัพย์สินทางปัญญาโดยผู้โอนได้รับค่าตอบแทนจากผู้รับโอน กระบวนการนี้มักเกิดขึ้นในรูปแบบของการซื้อขายลิขสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งทำให้สิทธิ์ในการใช้ ควบคุม และได้รับผลประโยชน์จากทรัพย์สินนั้นถูกโอนให้แก่ผู้รับโอนอย่างเต็มรูปแบบ


การโอนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาโดยไม่มีค่าตอบแทน

เป็นการโอนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาโดยไม่มีการแลกเปลี่ยนค่าตอบแทนใด ๆ เช่น การยกให้หรือการให้เปล่าสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา กระบวนการนี้มักเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ผู้โอนต้องการมอบสิทธิ์ให้แก่ผู้รับโอนด้วยเจตนาบริจาคหรือเหตุผลอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำกำไร

Return
Photo credit : www.canva.com

การโอนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาหรือการซื้อขายลิขสิทธิ์ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีค่าตอบแทน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของในทรัพย์สินทางปัญญา ทำให้ผู้รับโอนได้รับสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญานั้นและสามารถใช้ ควบคุม และได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าวเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกัน ผู้โอนจะสิ้นสุดสิทธิ์ทั้งหมดที่เคยมีในทรัพย์สินทางปัญญานั้น


ดังนั้นก่อนที่จะทำการซื้อขายหรือโอนลิขสิทธิ์ทางปัญญาทุกครั้ง ครีเอเตอร์ควรศึกษาและทำข้อตกลงกับผู้ที่รับโอนเป็นอย่างดีและชัดเจน เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ที่ดีที่สุด และป้องกันการถูกโกงจากผู้ไม่หวังดีได้อีกด้วย

ประโยชน์ของการมีลิขสิทธิ์ทางปัญญา ที่มีต่อนักสร้างสรรค์

หลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็อาจจะยังเกิดความสงสัยว่าแล้วการที่ผลงานของเราที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นมานั้นไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบ งานวาด งานเขียน รูปภาพต่าง ๆ ได้มีการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ทางปัญญาจะส่งผลดีอย่างไร RHINOSHIELD ได้รวบรวมประโยชน์ของการมีลิขสิทธิ์ทางปัญญามาให้แล้ว เพื่อให้เหล่าครีเอเตอร์ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งนี้

ช่วยให้เกิดความเป็นธรรมต่อคนคิดค้นผลงาน โดยเฉพาะหากมีใครต้องการนำผลงานไปใช้จะต้องขออนุญาตและจ่ายค่าผลงานให้กับเจ้าของผลงาน 

มีการบันทึกและนำไปขึ้นทะเบียนในระบบเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าใครคือเจ้าของผลงานตัวจริง ทำให้ไม่ถูกขโมยความคิดไปอย่างง่ายดาย

ช่วยรักษาสิทธิให้กับเจ้าของผลงานแม้จะถูกนำไปใช้ยังต่างประเทศก็ตาม

เปรียบเสมือนรางวัลตอบแทนในความทุ่มเท และตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลงาน

ช่วยให้เจ้าของผลงานมีกำลังใจสร้างผลงานดี ๆ ออกมาต่อไป

กระตุ้นให้คนเกิดความคิดสร้างสรรค์และความพยายามในการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ 

หากนักสร้างสรรค์ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ทางปัญญา สามารถเดินทางไปด้วยตนเองได้ที่ กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือ ถ้าไม่สะดวกเดินทางไปด้วยตนเองสามารถโทรติดต่อสายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา 1368 ได้เช่นกัน

RHINOSHIELD สนับสนุนลิขสิทธิ์ทางปัญญากับศิลปินที่ร่วมคอลแลป

RHINOSHIELD มองเห็นความสำคัญในเรื่องของงานศิลปะและการออกแบบ รวมไปถึงการให้ความสำคัญและสนับสนุนในเรื่องลิขสิทธิ์ทางปัญญาของเหล่าครีเอเตอร์ด้วย RHINOSHIELD จึงได้ร่วมงานกับศิลปิน และแบรนด์มากถึง 111 ผลงาน ให้มาออกแบบลวดลายบนเคสโทรศัพท์และอุปกรณ์เสริมของเรา ให้มีเอกลักษณ์ โดดเด่นไม่ซ้ำใคร มีลวดลายให้เลือกอย่างหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกสไตล์ของผู้ใช้งานอย่างแน่นอน ให้คุณเลือกลวดลายและออกแบบได้เอง ทั้งพื้นหลัง สติกเกอร์ โควทคำพูดต่าง ๆ เพื่อตกแต่งเคสในแบบที่เป็นคุณมากที่สุด 

ชี้เป้า! วิธีค้นหาลวดลายเคสของศิลปินจาก RHINOSHIELD

ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากร่วมสนับสนุนลิขสิทธิ์ทางปัญญาของเหล่าครีเอเตอร์ที่ร่วมงานกับทาง RHINOSHIELD ในการออกแบบลวดลายบนเคสโทรศัพท์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะหาลวดลายเหล่านั้นได้อย่างไร ซึ่งสำหรับ วิธีค้นหาลวดลายเคส บนเว็บไซต์ของ RHINOSHIELD สามารถทำได้ 4 วิธี คือ

วิธีที่ 1 : ค้นหาจากแท็บเมนู Design Studio : ในส่วนนี้จะขึ้นแนะนำลวดลายและคอลเลคชันใหม่ล่าสุดจากศิลปินที่เราร่วมงานด้วยขึ้นมาแนะนำให้คุณ แต่ถ้าหากคุณยังไม่ถูกใจสามารถคลิกดูเพิ่มเติมเพื่อค้นหารายชื่อศิลปินที่คุณชื่นชอบ เพื่อดูลวดลายที่จะนำมาตกแต่งเคสแบบใหม่ ๆ ได้อีกด้วย

วิธีที่ 2 : คลิกที่แบนเนอร์ตรงกลางหน้าเว็บไซต์ : เมื่อเลื่อนลงมาตรงกลางจะมีแบนเนอร์ดีไซน์แกลอรีจากศิลปินต่าง ๆ หรือหากเลื่อนลงมาด้านล่างตรงหัวข้อ Design Collection ก็สามารถกดเลือกลวดลายหรือค้นหาดีไซน์จากศิลปินและแบรนด์ที่ชื่นชอบ เพื่อดูภาพตัวอย่างได้

วิธีที่ 3 : คลิกที่รูปเครื่องมือค้นหาด้านบนเว็บไซต์ : สำหรับส่วนนี้จะรวบรวมดีไซน์และลวดลายต่าง ๆ ของศิลปินและแบรนด์ต่าง ๆ เอาไว้ ให้คุณสามารถกดค้นหาหรือพิมพ์คีย์เวิร์ดดีไซน์ที่ต้องการเพิ่มเติม เช่น กดค้นหาคำว่า Cat จะมีดีไซน์ที่เกี่ยวข้องกับ Cat มาให้เลือก ทั้งนี้ยังสามารถกดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการดูตัวอย่างได้ทั้งเคสโทรศัพท์ กระบอกน้ำ GRIP เป็นต้น

วิธีที่ 4 : คลิกเลือกจากส่วนดีไซน์เพิ่มเติมในหน้าซื้อสินค้า : เมื่อเข้าไปยังหน้าสินค้าเคสโทรศัพท์หรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ในส่วนของหน้าซื้อสินค้า ด้านตรงกลางขวามือจะมีส่วนดีไซน์เพิ่มเติม สามารถกดไปที่ Design Studio เพื่อไปยังหน้ารวมดีไซน์ต่าง ๆ ของศิลปินและแบรนด์ หรือจากหน้าซื้อสินค้า เมื่อเลื่อนลงมาด้านล่างจะมีรูปตัวอย่างเคสโทรศัพท์หรืออุปกรณ์นั้น ๆ พร้อมลวดลายแนะนำที่คุณอาจจะสนใจ ก็สามารถกดเพื่อดูตัวอย่างลวดลายได้เช่นกัน

RHINOSHIELD ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของครีเอเตอร์อย่างไร?

ทาง RHINOSHIELD มีข้อกำหนดเกี่ยวกับบริการออกแบบด้วยตัวเอง สำหรับข้อความและรูปภาพ เพื่อป้องกันปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่อาจเกิดขึ้น โดยเราจะมีเกณฑ์การพิจารณารูปภาพแต่ละภาพที่ทำการออกแบบและอัปโหลดขึ้นมา ซึ่งจะต้องไม่มีเนื้อหารูปแบบใด ๆ ที่ขัดต่อนโยบายของเรา อาทิเช่น เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์/เครื่องหมายการค้า (รวมถึงแฟนอาร์ตและการล้อเลียน) ภาพถ่าย/งานศิลปะของบุคคลที่มีชื่อเสียงโดยที่ไม่ได้รับการยินยอม และผลงานศิลปะของศิลปินอิสระ หากผู้ใช้งานต้องการที่ออกแบบจะต้องได้รับความยินยอมหรืออนุญาตจากเจ้าของผลงานนั้น ๆ


โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้งานมักเข้าใจว่าภาพที่สามารถพบได้บนช่องทางออนไลน์นั้นไม่มีลิขสิทธิ์ แต่โดยทั่วไปแล้วภาพเหล่านั้นส่วนใหญ่มีไว้สำหรับใช้ในนามบุคคลเท่านั้น ไม่สามารถใช้สำหรับบริการ "ออกแบบด้วยตัวเอง" ของเราได้ ไม่สามารถพิมพ์ภาพเหล่านั้นเพื่อนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ หากไม่ได้รับการอนุญาตและการยินยอมที่ถูกต้อง หากทาง RHINOSHIELD พบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา ทางเรามีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมได้ทุกเมื่อ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า


RHINOSHIELD หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ครีเอเตอร์หรือศิลปิน รวมไปถึงผู้บริโภคตระหนักถึงเรื่องลิขสิทธิ์ทางปัญญามากขึ้น โดยเฉพาะเหล่านักสร้างสรรค์ที่อาจจะต้องมีการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ผลงานของตนเองเพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ และนำไปใช้โดยที่ไม่ขออนุญาต รวมไปถึงการซื้อขายลิขสิทธิ์เมื่อมีบุคคลหรือนิติบุคคลสนใจในงานที่เราสร้างสรรค์ เพื่อที่จะทำให้รู้เท่าทันและได้ประโยชน์มากที่สุดจากการขายผลงานชิ้นหนึ่ง


ทาง RHINOSHIELD ก็ให้ความสำคัญและสนับสนุนลิขสิทธิ์ทางปัญญาของเหล่าศิลปินและแบรนด์ โดยการคอลแลปกับศิลปินมากกว่า 111 ผลงาน ให้มาร่วมสร้างสรรค์ลวดลายบนเคสโทรศัพท์ เพื่อให้ผู้ซื้อได้มีตัวเลือกในการตกแต่งเคสโทรศัพท์มือถือของตนเองอย่างมีสไตล์ ที่ตรงกับความชื่นชอบของผู้ใช้งานมากที่สุด เรียกได้ว่าเมื่อคุณซื้อเคสโทรศัพท์จาก RHINOSHIELD จะได้ทั้งของดี มีคุณภาพ อย่างมีสไตล์ พร้อมทั้งได้สนับสนุนลิขสิทธิ์ทางปัญญาของศิลปินอีกด้วย