แฟชั่น Zero Waste: การจับมือกันของ Rhinoshield × Story Wear ในงาน Taipei Fashion Week SS25
ที่งาน Taipei Fashion Week ที่ทุกคนในวงการแฟชั่นทั่วโลกเฝ้ารอ ดีไซเนอร์แถวหน้าของไต้หวันมารวมตัวกันอีกครั้ง โดยปีนี้ Rhinoshield จับมือกับ Story Wear พันธมิตรด้านความยั่งยืนของแบรนด์ เพื่อถ่ายทอดแนวคิด “แฟชั่นไร้ขยะ” หรือ Zero Waste Fashion ในธีมออกแบบ SS25 ที่ใช้ชื่อว่า ONE
ครั้งนี้ทั้งสองแบรนด์ได้เปิดตัวคอลเลกชันคอลแลปส์สำหรับอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์ ด้วยแนวคิดที่ใช้แฟชั่นเป็นภาษาบนรันเวย์ เพื่อสะท้อนหลากหลายมุมมองของชีวิต และส่งต่อความหมายว่า “เราทุกคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ในขณะเดียวกันก็มีชะตาชีวิตที่เชื่อมโยงถึงกัน”
แฟชั่นเป็นมากกว่าแค่ไอเท็มตามเทรนด์ที่ใช้แล้วทิ้งง่าย ๆ
ทุกปีมีกางเกงยีนส์ผลิตออกมากว่า 4.5 พันล้านตัว และเคสโทรศัพท์กว่า 1 พันล้านชิ้น ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานสั้น ถูกทิ้งไปตามเทรนด์ที่ผ่านไปไว กลายเป็นส่วนหนึ่งของมลภาวะที่ท่วมท้นโลกของเรา
ทุกวันนี้ แฟชั่นยั่งยืนไม่ได้เป็นแค่คำพูดหรือสัญลักษณ์รูปโลกบนสินค้าอีกแล้ว เหมือนกับที่เกิดการปฏิวัติ Fur Free และ Cruelty-Free Beauty ผู้บริโภคเรียกร้องให้แบรนด์ใหญ่ ๆ ลงมือทำจริงจัง การเพิกเฉยหรือพยายามทำแค่ผิวเผินถูกมองว่าเป็น "greenwashing" ที่ขาดความรับผิดชอบและไม่เข้ากับยุคสมัย
ทางแก้ปัญหานี้อยู่ที่ “เศรษฐกิจหมุนเวียน” ตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาวัสดุ ไปจนถึงการรีไซเคิลและการนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อให้แฟชั่นเป็นมิตรกับโลกได้อย่างแท้จริง
แฟชั่นคือวัฏจักรของการฟื้นคืนความคลาสสิกและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
การสร้างระบบนิเวศหมุนเวียนโดยการเปลี่ยนของเก่าให้กลายเป็นแฟชั่นใหม่ เป็นสิ่งที่ Rhinoshield และ Story Wear มุ่งมั่นที่จะทำ Rhinoshield ยึดหลักการใช้วัสดุชนิดเดียวสำหรับเคสโทรศัพท์ ทำให้หลังการรีไซเคิลไม่ต้องแยกวัสดุหรือทำความสะอาดกาว ช่วยลดขยะและนำไปสู่การรีไซเคิลที่ปลอดขยะอย่างสมบูรณ์ 100%
>> โปรแกรมรีไซเคิลอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนของ RHINOSHIELD
ส่วน Story Wear เน้นการใช้ผ้ายีนส์รีไซเคิลและผ้าที่ถูกทิ้ง มอบชีวิตใหม่ให้กับแฟชั่นผ่านช่างตัดเสื้อท้องถิ่น ผู้หญิงที่กลับมาทำงาน และครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากอัมพาตสมอง
>>การรีไซเคิลยีนส์ของ Story Wear
เรามีความเชื่อว่าความหมายของแฟชั่นอยู่ที่ความสามารถในการทนต่อกาลเวลา กลายเป็นสิ่งเตือนความทรงจำที่อยู่กับคุณในทุกเส้นทางชีวิต เมื่อถึงเวลาต้องลาจาก มันยังสามารถกลับมาในรูปแบบใหม่สำหรับคนรุ่นต่อไป พร้อมที่จะถูกใช้หรือถูกรักโดยใครสักคนใหม่
การใช้พื้นผิวเสมือนจริงทดแทนกาวที่ขัดขวางการรีไซเคิล
เทคโนโลยีการพิมพ์ RE:Texture™ Haptic ของ Rhinoshield เป็นการสำรวจแนวคิด “วัสดุหมุนเวียน” และ “สื่อสร้างสรรค์” เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยี UV ที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากจะให้ประสบการณ์สัมผัสที่เหมือนจริงและการสะท้อนแสงที่ซับซ้อนแล้ว ยังไม่เหมือนกับเคสโทรศัพท์ที่ใช้วัสดุผ้า คาร์บอนไฟเบอร์ หรือไม้จริงที่มีการใช้กาวที่แข็งแรงจนทำให้การรีไซเคิลเป็นไปได้ยาก โดยเคสโทรศัพท์ของ Rhinoshield ต้องการเพียงการลอกผิวเคลือบออกก็สามารถเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้เลย
ในคอลเลกชันเครื่องประดับที่ร่วมสร้างสรรค์กับ Story Wear มีลวดลายผ้ายีนส์ ลายคราม และดีไซน์จากสไตล์ของห้างยั่งยืนใน Dadaocheng รวมถึงดีไซน์ทดลองที่ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ RE:Texture™ Haptic เช่น ลายชบาแบบปะติด ลายชบานี้ที่ใช้เทคนิคการปะติดเชิงเรขาคณิตอันเป็นเอกลักษณ์ของ Story Wear เผยให้เห็นลายพื้นผิวที่มีหัวลูกศรสี่ทิศมาบรรจบกันที่ศูนย์กลาง สื่อถึงการที่คนมารวมพลังศรัทธาจึงจะทำให้ชีวิตกลับมาสดใสได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับดอกชบาที่บานอีกครั้ง
ความร่วมมือข้ามสาขาเพื่อเสริมสร้างอิทธิพลด้านความยั่งยืน
เพื่อเผยแพร่ปรัชญานี้ไปยังหลากหลายสาขา งานเปิดตัวของ Story Wear ได้เชิญเหล่านายแบบนางแบบที่แตกต่างจากปกติ มาร่วมเดินแฟชั่นโชว์แบบครอสโอเวอร์ โดยมีนักแสดง ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ในโซเชียลมีเดีย และแดร็กควีน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าแฟชั่นไม่ควรถูกจำกัดอยู่ในจินตนาการรูปแบบใดแบบหนึ่งเท่านั้น แต่ควรเปิดรับทุกรูปแบบของชีวิต
การแสดงแฟชั่นโชว์นี้กำกับเป็นครั้งแรกโดย Wang Hsiao-Ti ผสมผสานองค์ประกอบของละครเวที พร้อมร่วมมือกับสมาคมหวนอี้ นิว นอเลจ แคร์ริ่ง (Xuan Yi New Knowledge Caring Association) เพื่อเล่าเรื่องราวเบื้องหลังของแฟชั่นไร้ขยะที่ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือของครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากอัมพาตสมอง
การเลือกแฟชั่นคือการเลือกวิถีชีวิตที่ยั่งยืน
จากเทคโนโลยีสู่งานศิลปะ จากอุปกรณ์อัจฉริยะสู่งานฝีมือ เมื่อความยั่งยืนกลายเป็นประเด็นสำคัญข้ามสาขาและเป็นแนวโน้มระดับโลก แฟชั่นจึงถูกนิยามใหม่ มันไม่ได้ถูกนำโดยคนกลุ่มน้อยอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นกระแสที่ผสานเข้ากับวิถีชีวิตของเรา เริ่มต้นจากการเลือกใส่สิ่งที่เราสวมใส่ในชีวิตประจำวัน Rhinoshield และ Story Wear ต่างก็มีบริการรีไซเคิลในร้านและนำเสนอสินค้าจากการหมุนเวียนใหม่ ช่วยให้ทุกคนที่อยากเป็นมิตรกับธรรมชาติสามารถเปลี่ยนเจตนาให้กลายเป็นการกระทำที่แท้จริง ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนแปลงแฟชั่นและอนาคตของเรา