วันคุ้มครองโลก ก้าวสู่อนาคตสีเขียวด้วยการเลือกใช้พลังงานทดแทน

วันคุ้มครองโลก (Earth Day)
Image Source: Canva.com

วันคุ้มครองโลก (Earth Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 22 เมษายนของทุกปี เป็นวันที่สร้างความตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและการปกป้องโลกจากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการลดการใช้วัสดุที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ และส่งเสริมการใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การเลือกใช้เคสโทรศัพท์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลและยั่งยืน ในโอกาสนี้ RHINOSHIELD แบรนด์เคสมือถือที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม จะพาทุกคนย้อนกลับไปดูประวัติของวันโลก รวมถึงเป้าหมาย Earth Day คืออะไร? และเราสามารถร่วมสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างไร

รู้จักประวัติความเป็นมาวันคุ้มครองโลกและความสำคัญของการร่วมมือ

วันคุ้มครองโลก เริ่มต้นขึ้นในปี 1970 โดย Gaylord Nelson วุฒิสมาชิกจากรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและกระตุ้นให้ทุกคนหันมาร่วมมือรักษาและฟื้นฟูโลกให้ยั่งยืน ในวันที่ 22 เมษายน 2513 ชาวอเมริกันกว่า 20 ล้านคนได้รวมตัวกันเพื่อประท้วงมลภาวะและการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดการออกพระราชบัญญัติแก้ไขมลพิษในอากาศและการจัดตั้งสำนักงานป้องกันสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ปัจจุบัน วันคุ้มครองโลกกลายเป็นวันที่คนทั่วโลกร่วมมือกันดูแลและปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง

จุดเริ่มต้นของวันคุ้มครองโลกในประเทศไทย


วันคุ้มครองโลกในประเทศไทยเริ่มขึ้นในปี 1990 เมื่อทั้งภาครัฐและเอกชนเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และมองเป็นโอกาสในการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่โลกกำลังเผชิญ ทุกปีในวันที่ 22 เมษายน หรือวันคุ้มครองโลกจะเป็นวันที่กระตุ้นให้ทุกคนหันมาสนใจและดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น


ในปี 1992 หลังจากที่ประเทศไทยเข้าร่วมการประชุม Earth Summit 1992 ที่เมืองริโอ ประเทศไทยเริ่มจัดกิจกรรมวันโลกอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่นั้นมา หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชนต่าง ๆ ได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การลดมลพิษ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การส่งเสริมพลังงานทดแทน และการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน

เป้าหมายวันคุ้มครองโลกคืออะไร? มาดูกิจกรรมง่าย ๆ ที่คุณทำได้

วันคุ้มครองโลกไม่ใช่แค่วันเฉลิมฉลอง แต่ยังเป็นวันที่เราร่วมกันตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่โลกกำลังเผชิญ และหาทางแก้ไขเพื่อลดผลกระทบจากการทำลายสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน วันที่ 22 เมษายน หรือ Earth Day คือโอกาสที่ทุกคนจะได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความสมดุลของโลก และมุ่งมั่นในการปกป้องสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน เป้าหมายของ Earth Day คือการรักษาโลกให้สมดุลและยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป โดยทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ผ่านกิจกรรมง่าย ๆ ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทำให้โลกของเราดีขึ้น

1. ลดคาร์บอนไดออกไซด์


การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ช่วยลดมลพิษจากการใช้พลังงานในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้รถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนสูงหรือการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเลือกเดินทางโดยขนส่งสาธารณะหรือปั่นจักรยานแทนการขับรถยนต์ส่วนตัวจะช่วยลด CO2 ได้


นอกจากนี้ การใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ยังช่วยลดมลพิษได้เช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับกิจกรรมในวันคุ้มครองโลกที่ต้องการกระตุ้นให้ทุกคนหันมาทำสิ่งดี ๆ เพื่อสิ่งแวดล้อม

2. กำจัดคลอโรฟลูออโรคาร์บอน


คลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFCs) เป็นสารที่ทำลายชั้นโอโซน ซึ่งปกป้องโลกจากรังสี UV ที่อันตราย การลดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี CFCs เช่น สเปรย์หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีเหล่านี้ จะช่วยปกป้องโอโซน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจึงเป็นวิธีดีในการรักษาชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของ Earth Day

3. อนุรักษ์ป่า


ป่าเป็นแหล่งดูดซับ CO2 และผลิตออกซิเจนสำคัญ การอนุรักษ์ป่าจึงเป็นส่วนสำคัญในการคุ้มครองโลก การปลูกต้นไม้และสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ป่าช่วยให้ระบบนิเวศสมบูรณ์และปรับสมดุลสิ่งแวดล้อม ป่าไม้ช่วยสร้างสมดุลให้โลกและการรักษาป่าจึงเป็นเป้าหมายหลักในวันคุ้มครองโลก

4. ห้ามค้าสัตว์ใกล้สูญพันธุ์


การค้าสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ทำให้สัตว์บางชนิดสูญพันธุ์และกระทบระบบนิเวศ การห้ามค้าสัตว์เหล่านี้และสนับสนุนโครงการอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น เสือโคร่งหรือค้างคาว จะช่วยให้สัตว์เหล่านี้มีโอกาสอยู่รอดและขยายพันธุ์ การร่วมมือกันในกิจกรรมวันคุ้มครองโลกช่วยปกป้องทุกชีวิตบนโลก

แนะนำกิจกรรมทั่วโลกลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสร้างการตระหนักรู้

ในปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เนื่องจากผลกระทบจากการทำลายธรรมชาติเริ่มปรากฏชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกร้อน มลพิษทางอากาศและน้ำ หรือการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ทำให้การมีส่วนร่วมในวันคุ้มครองโลกเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยลดผลกระทบและกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม


RHINOSHIELD แบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์เสริมสมาร์ตโฟน โดยเฉพาะเคสกันกระแทกที่ทนทานและใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะพาคุณไปรู้จักกับกิจกรรมระดับโลกที่ช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติ พร้อมสร้างความตระหนักรู้ในการดูแลโลกของเรา

1. ส่งเสริมการปลูกต้นไม้


การปลูกต้นไม้เป็นวิธีง่าย ๆ แต่ทรงพลังในการช่วยสิ่งแวดล้อม เพราะต้นไม้ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปรับสมดุลอุณหภูมิ และเพิ่มออกซิเจนให้โลก หลายประเทศจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ในวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 22 เมษายน เช่น โครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองและฟื้นฟูป่าที่ถูกทำลาย นอกจากช่วยลดภาวะโลกร้อนแล้ว ยังเป็นการสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนให้กับโลกของเรา

ปลูกต้นไม้
Image Source: Canva.com

2. อนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่


ต้นไม้ใหญ่นอกจากช่วยดูดซับคาร์บอนแล้ว ยังเป็นแหล่งกักเก็บน้ำและที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า การปกป้องต้นไม้เก่าแก่และลดการตัดไม้ทำลายป่าจึงมีความสำคัญต่อความสมดุลของธรรมชาติ หลายประเทศมีโครงการอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงวันคุ้มครองโลก เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ

อนุรักษ์ต้นไม้
Image Source: Canva.com

3. ให้การศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อม


การให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและแนวทางแก้ไขเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในโรงเรียน ชุมชน หรือสื่อออนไลน์ Earth Day คือวันที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับการสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมผ่านการศึกษาและการลงมือทำจริง การสร้างความเข้าใจและการร่วมมือกันดูแลโลกคือเป้าหมายหลักของการเฉลิมฉลองวันโลกในทุก ๆ ปี

เรียนเรื่องสิ่งแวดล้อม
Image Source: Canva.com

RHINOSHIELD แบรนด์ที่สนับสนุนการรีไซเคิลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

RHINOSHIELD ไม่ใช่แค่แบรนด์เคสมือถือและอุปกรณ์เสริมคุณภาพสูง แต่ยังใส่ใจสิ่งแวดล้อมผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นไปที่การลดขยะพลาสติก สนับสนุนการรีไซเคิล และใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


เนื่องในวันคุ้มครองโลก (22 เมษายน) ซึ่งเป็นวันที่ทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม RHINOSHIELD ขอแนะนำเคส CircularNext และ Nature Explorers ที่ไม่เพียงแต่ปกป้องสมาร์ตโฟนได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติอีกด้วย

CircularNext เคสกันกระแทกที่เป็นมิตรต่อโลก


CircularNext เป็นเคสกันกระแทกที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล มุ่งเน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มที่ โดยใช้การผลิตแบบวัสดุชิ้นเดียวเพื่อให้สามารถรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านกระบวนการ Close-Loop Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบปิด ซึ่งช่วยให้วัสดุสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้จริง CircularNext ผลิตจากเคส RHINOSHIELD ที่ใช้แล้ว 100% และในอนาคตก็สามารถนำกลับมารีไซเคิลเพื่อสร้างเคสใหม่ได้อีกครั้ง


นอกจากความยั่งยืนแล้ว เคส CircularNext ยังมาพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่น ทั้งการกันกระแทกได้สูงถึง 3.5 เมตร ดีไซน์ไล่สีที่เป็นเอกลักษณ์ และมี QR โค้ดด้านในเคสเพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตามข้อมูลการหมุนเวียนของวัสดุได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังสามารถนำไปรีไซเคิลซ้ำได้หลายครั้ง ตอกย้ำแนวคิดการลดขยะและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

เคส Nature Explorers ปกป้องมือถือในทุกสถานการณ์


เคสกันกระแทก Nature Explorers ออกแบบมาเพื่อปกป้องสมาร์ตโฟนจากการตกหรือกระแทกในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย ด้วยเทคโนโลยีที่เพิ่มความแข็งแรงและทนทาน แต่ยังคงความบางและพกพาสะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัยและกิจกรรมกลางแจ้ง ต้องการความมั่นใจในการปกป้องอุปกรณ์จากฝน, โคลน หรือการกระแทก ดีไซน์สไตล์กิจกรรมกลางแจ้งช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณค้นหาตัวตนในโลกธรรมชาติ ทุกครั้งที่หลีกหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่

RHINOSHIELD เคส Nature Explorer

จากข้างต้น เห็นได้ว่าวันคุ้มครองโลกหรือ Earth Day คือวันสำคัญที่ทั่วโลกร่วมรณรงค์เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและผลกระทบจากการกระทำของมนุษย์ต่อธรรมชาติ ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในวันที่ 22 เมษายน เช่นเดียวกับ RHINOSHIELD ไม่เพียงผลิตเคสกันกระแทกคุณภาพสูง แต่ยังใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและการออกแบบที่ยั่งยืน หากคุณกำลังสงสัยว่า RHINOSHIELD ดีไหม หรือเคส CircularNext ของ RHINOSHIELD ซื้อที่ไหน คำตอบ สามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ของ RHINOSHIELD พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกของเราในวันโลกกัน