วันเต่าโลก ร่วมลงมือวันนี้ เพื่ออนาคตของเต่าและสิ่งแวดล้อม!

วันเต่าโลก (World Turtle Day) ถูกกำหนดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของเต่าและระบบนิเวศที่พวกมันอาศัยอยู่ ลักษณะของเต่าไม่ได้เป็นเพียงสัตว์ที่มีรูปร่างน่ารักหรือเป็นที่สนใจเท่านั้น แต่ชนิดของเต่ายังมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของธรรมชาติ ช่วยควบคุมปริมาณสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเต่าไทยใกล้สูญพันธุ์จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการทำลายถิ่นที่อยู่อาศัย มลพิษทางน้ำ หรือการล่าของมนุษย์ ทั้งเพื่อการบริโภคและการค้าสัตว์เลี้ยง
เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของวันเต่าโลก บทความนี้ RHINOSHIELD แบรนด์เคสโทรศัพท์กันกระแทกที่โดดเด่นด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ จะพาคุณไปรู้จักกับความเป็นมาของวันสำคัญนี้ พร้อมสำรวจวิธีง่าย ๆ ที่เราสามารถช่วยอนุรักษ์เต่าและสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน
ทำไมต้องมีวันเต่าโลก? ความเป็นมาของวันสำคัญในการอนุรักษ์เต่า
วันที่ 23 พฤษภาคมของทุกปี เป็นโอกาสที่เราจะได้ตระหนักถึงความสำคัญของเต่าผ่านวันเต่าโลก (World Turtle Day) ซึ่งถูกกำหนดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนเห็นคุณค่าและร่วมมือกันอนุรักษ์สัตว์น่ารักเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประชากรเต่าทั่วโลกกำลังลดลงอย่างน่าเป็นห่วงจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะภัยคุกคามจากมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียพื้นที่อยู่อาศัยจากการพัฒนาชายฝั่ง การบุกรุกป่าชายเลน และการขยายตัวของเมือง ส่งผลให้เต่าหลายชนิดขาดแหล่งวางไข่และอาหารที่เพียงพอ
อีกหนึ่งภัยร้ายแรงคือ ขยะพลาสติกในทะเล เต่ามักเข้าใจผิดว่าพลาสติกเป็นอาหาร เช่น แมงกะพรุน เมื่อเผลอกลืนเข้าไป อาจทำให้เกิดการอุดตันในทางเดินอาหาร หรือสะสมสารพิษในร่างกายจนเป็นอันตราย สำหรับในประเทศไทย เต่าไทยใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด เช่น เต่าหก เต่าจักรทอง และเต่าหับที่กำลังเผชิญกับความเสี่ยงสูงจากการล่าเพื่อนำไปเป็นอาหารหรือเลี้ยงเป็นสัตว์สวยงาม การอนุรักษ์เต่าไทยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจและร่วมมือกันปกป้อง
เรื่องที่น่ารู้เกี่ยวกับเต่า ความน่าสนใจของสัตว์ที่ควรอนุรักษ์
เต่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยล้านปี และมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของโลก ไม่ว่าจะเป็นเต่าบก เต่าน้ำจืด หรือเต่าทะเล ต่างก็มีลักษณะของเต่าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้พวกมันเป็นสัตว์ที่น่าหลงใหล แต่ในปัจจุบัน เต่าหลายสายพันธุ์กำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและกิจกรรมของมนุษย์ การอนุรักษ์เต่าจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ โดยเฉพาะในวันเต่าโลก (World Turtle Day) ซึ่งถูกกำหนดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการปกป้องเต่าทั่วโลก วันนี้ RHINOSHIELD ขอนำคุณมารู้จักกับเต่ามากยิ่งขึ้น

อุณหภูมิส่งผลต่อเพศของเต่า
หนึ่งในเรื่องที่น่าทึ่งเกี่ยวกับเต่าคือ การที่อุณหภูมิของทรายหรือดินที่ไข่ถูกฝัง สามารถกำหนดเพศของลูกเต่าได้! หากอุณหภูมิในช่วงฟักไข่ต่ำกว่า 27-29°C ลูกเต่าที่เกิดมาจะเป็นเพศผู้ แต่ถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 30°C ลูกเต่าจะเป็นเพศเมีย และในบางสายพันธุ์ หากอุณหภูมิอยู่ในช่วงกลาง ๆ อาจมีทั้งเพศผู้และเพศเมียในรังเดียวกัน
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้คือ ภาวะโลกร้อนที่ทำให้อุณหภูมิของทรายสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้เต่าเพศเมียเกิดมากกว่าปกติ นี่อาจส่งผลกระทบต่อสมดุลทางพันธุกรรมและกระบวนการขยายพันธุ์ของเต่าในระยะยาว ดังนั้น การรักษาสมดุลอุณหภูมิในธรรมชาติจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ เพื่อปกป้องอนาคตของเต่าทั่วโลก
ชนิดของเต่า
แม้ลักษณะของเต่าทั้งหมดจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ละชนิดกลับมีการปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งชนิดของเต่าได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
เต่าบก (Tortoise)
เต่าบกอาศัยอยู่บนบก มีขาหนาและแข็งแรง คล้ายกับขาช้าง กระดองของมันโค้งสูงเพื่อช่วยป้องกันตัวจากศัตรู เต่าบกกินพืชเป็นหลัก เช่น ใบไม้ หญ้า และผลไม้

เต่าน้ำจืด (Freshwater Turtle)
เต่าน้ำจืดมักอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ หรือบ่อน้ำ โดยลักษณะของเต่าชนิดนี้คือมีเท้าที่เป็นพังผืด เพื่อช่วยในการว่ายน้ำ เต่าน้ำจืดกินได้ทั้งพืชและสัตว์ เช่น หอย ปู และปลา

เต่าทะเล (Sea Turtle)
เต่าทะเลอาศัยอยู่ในทะเลเกือบตลอดชีวิต ยกเว้นช่วงที่มันขึ้นมาบนชายหาดเพื่อวางไข่ ลักษณะของเต่าทะเลคือมีครีบแทนขาเพื่อช่วยให้สามารถว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็ว เต่าทะเลกินอาหารทะเลเช่น แมงกะพรุน ปะการัง และสาหร่ายทะเล

เต่าทะเล 7 ชนิดที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน
เต่าทะเลเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณที่ดำรงเผ่าพันธุ์มายาวนานกว่า 100 ล้านปี แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 7 ชนิดเท่านั้น ลักษณะของเต่าแต่ละสายพันธุ์มีเอกลักษณ์และบทบาทสำคัญในระบบนิเวศทางทะเลที่แตกต่างกัน
เต่ามะเฟือง (Leatherback Turtle) – ใหญ่ที่สุดในบรรดาเต่าทะเล และสามารถดำน้ำได้ลึกที่สุด
เต่ากระ (Hawksbill Turtle) – มีจงอยปากแหลมคม ใช้กินฟองน้ำทะเลและปะการัง ช่วยควบคุมปริมาณของฟองน้ำในแนวปะการัง
เต่าตนุ (Green Turtle) – มีสีเขียวจากไขมันใต้ผิวหนัง กินพืชเป็นหลัก และช่วยรักษาสมดุลของทุ่งหญ้าทะเล
เต่าหัวค้อน (Loggerhead Turtle) – มีหัวขนาดใหญ่และกรามที่แข็งแรง ชอบกินหอย ปู และสัตว์เปลือกแข็ง
เต่าหญ้า (Olive Ridley Turtle) – ขนาดเล็กที่สุด แต่มักวางไข่พร้อมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ช่วยเพิ่มอัตราการรอดของลูกเต่า
เต่าเคมป์ริดลีย์ (Kemp’s Ridley Turtle) – พบมากในอ่าวเม็กซิโก และเป็นสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดจากการทำประมงและการสูญเสียแหล่งวางไข่
เต่าหลังแบนออสเตรเลีย (Flatback Turtle) – พบเฉพาะในน่านน้ำออสเตรเลีย และมีจำนวนประชากรจำกัด
สาเหตุที่ทำให้เต่าไทยใกล้สูญพันธุ์ 3 ปัจจัยที่คุณอาจไม่รู้!
เต่าเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศมาตั้งแต่ยุคโบราณ แต่ปัจจุบันประชากรเต่าไทย โดยเฉพาะ เต่าทะเลและเต่าพื้นเมืองกำลังลดลงอย่างน่าตกใจ หลายสายพันธุ์ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มใกล้สูญพันธุ์ ไม่ใช่แค่เพราะการล่าหรือการค้าสัตว์ป่า แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่คุกคามเต่าโดยที่เราอาจไม่ทันได้สังเกต มาดูกันว่า 3 สาเหตุหลักที่ทำให้เต่าไทยใกล้สูญพันธุ์ มีอะไรบ้าง?
1. ขยะพลาสติกในท้องทะเล ภัยเงียบที่ฆ่าเต่าโดยไม่รู้ตัว
พลาสติกเป็นศัตรูตัวฉกาจของเต่าทะเล โดยเฉพาะถุงพลาสติกที่มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแมงกะพรุน ซึ่งเป็นอาหารหลักของเต่า เมื่อกลืนลงไปพลาสติกจะอุดตันระบบทางเดินอาหาร ทำให้เต่าไม่สามารถกินอาหารได้ จนเกิดภาวะขาดสารอาหารและอาจตายในที่สุด
นอกจากนี้ เศษอวนและเชือกพลาสติกที่ถูกทิ้งลงทะเลยังเป็นกับดักอันตราย เต่าที่ติดอยู่จะไม่สามารถว่ายน้ำขึ้นมาหายใจได้ ส่งผลให้จมน้ำตาย

วิธีช่วยลดปัญหา
ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เช่น ถุงพลาสติก หลอด แก้วพลาสติก
ร่วมมือกันเก็บขยะตามชายหาดและท้องทะเล
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น เคสโทรศัพท์จากวัสดุรีไซเคิล อย่าง RHINOSHIELD
2. การล่าเต่าทะเลและการค้าผิดกฎหมาย
ถึงแม้เต่าจะเป็นสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย แต่การล่าเต่าและการค้าเต่ายังคงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยมีทั้งการล่าเพื่อนำเนื้อมาบริโภค ขายเป็นสัตว์เลี้ยง และการนำไข่เต่ามาจำหน่ายในตลาดมืด ความเชื่อผิด ๆ ว่าไข่เต่ามีสรรพคุณทางยาและช่วยบำรุงร่างกาย การล่าที่ไม่มีการควบคุมนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อจำนวนประชากรเต่า โดยเฉพาะเต่าทะเลที่มีอัตราการรอดต่ำอยู่

วิธีช่วยลดปัญหา
เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่วางไข่ของเต่าทะเล
บังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดขึ้น ปราบปรามการล่าและค้าสัตว์ผิดกฎหมาย
รณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของเต่าทะเล และอันตรายจากการค้าเต่าผิดกฎหมาย
3. การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบอย่างมากต่อวงจรชีวิตของเต่าทะเล อุณหภูมิที่สูงขึ้นของทรายบริเวณที่ฟักไข่อาจเปลี่ยนแปลงสัดส่วนเพศของลูกเต่า ทำให้มีจำนวนเพศเมียมากกว่าตัวผู้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการขยายพันธุ์ในระยะยาว นอกจากนี้ พายุที่รุนแรงขึ้นและระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงยังทำลายชายหาดที่เป็นแหล่งวางไข่ของเต่า ส่งผลให้จำนวนลูกเต่าที่รอดชีวิตลดลง

วิธีช่วยลดปัญหา
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น ใช้พลังงานสะอาดและลดการใช้พลาสติก
ฟื้นฟูชายหาดธรรมชาติ เพื่อเป็นพื้นที่วางไข่ของเต่าทะเล
สนับสนุนงานวิจัยและโครงการอนุรักษ์เต่าไทยใกล้สูญพันธุ์
แนะนำเคสมือถือ RHINOSHIELD ปกป้องสมาร์ตโฟนโดยไม่ทำร้ายธรรมชาติ
RHINOSHIELD ไม่เพียงแค่ให้ความสำคัญกับการปกป้องสมาร์ตโฟนของคุณ แต่ยังมุ่งมั่นสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการสร้างขยะ และช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย แบรนด์ RHINOSHIELD จึงพัฒนาเคสที่สามารถปกป้องโทรศัพท์ได้อย่างดีเยี่ยม โดยไม่ละเลยต่อความรับผิดชอบต่อโลกของเรา
เคส CircularNext
เคส CircularNext เป็นเคสที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล 100% ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกและลดการเกิดไมโครพลาสติกที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะต่อสัตว์ทะเล เช่น เต่าทะเล และสัตว์น้ำอื่น ๆ วัสดุรีไซเคิลเหล่านี้ผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดมลพิษเพิ่มเติม พร้อมทั้งยังคงความแข็งแรงและความทนทานในการใช้งาน

เคส SolidSuit
SolidSuit รุ่นใหม่ได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติการปกป้องที่เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี ShockSpread ECO ซึ่งเป็นวัสดุที่ทนทานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตจากวัสดุยั่งยืน TPE (Thermoplastic Elastomer) ที่ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องสมาร์ตโฟนของคุณ แต่ยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลือง นอกจากนี้ เคส SolidSuit ยังมีความทนทานต่อความสกปรก แน่นกระชับ และใช้งานได้นานขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เคส Clear
เคสใสรุ่น Clear ของ RHINOSHIELD ไม่เพียงแต่ให้การปกป้องโทรศัพท์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยลดปัญหาเคสเหลือง ซึ่งเป็นปัญหาหลักของเคสใสทั่วไป จากการพัฒนาและทดสอบภายใต้แสง UV อุณหภูมิสูงและสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง (ตามมาตรฐาน SGS) เป็นเวลาถึง 168 ชั่วโมง ผลลัพธ์พบว่า เคส Clear ยังคงความใสเหมือนเดิม และช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพราะผลิตด้วยวัสดุที่ทนทาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ

เคส Mod NX
Mod NX คือเคสที่ให้คุณปรับแต่งได้อย่างอิสระ ด้วยแผ่นด้านหลังที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ คุณสามารถเลือกใช้งานได้สองโหมด
โหมดเคสเต็มรูปแบบ เพื่อปกป้องโทรศัพท์ของคุณอย่างรอบด้าน
โหมด Bumper ที่โชว์สีสันตัวเครื่องได้อย่างเต็มที่ โดยยังคงคุณสมบัติการกันกระแทกไว้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ เคส Mod NX มาพร้อมตัวเลือกในการตกแต่งกรอบเคส ปุ่มกด และแผ่นด้านหลังให้เข้ากับสไตล์ของคุณเอง แสดงเอกลักษณ์และความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไม่ซ้ำใคร ด้วยโครงสร้างที่ใช้ ShockSpread Technology ทำให้สามารถดูดซับแรงกระแทกได้สูงถึง 3.5 เมตร มอบความแข็งแกร่งที่คุณวางใจได้

มาถึงตรงนี้ ถ้าถามว่า RHINOSHIELD ดีไหม? คำตอบคือ ดีทั้งในแง่ของการปกป้องสมาร์ตโฟนและการดูแลสิ่งแวดล้อม ด้วยวัสดุคุณภาพสูงที่ผ่านการทดสอบความทนทาน พร้อมการออกแบบที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเคสแข็งแรง ปกป้องมือถือได้ดี และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาเคสมือถือรุ่น CircularNext แต่ไม่รู้ว่าเคส RHINOSHIELD ซื้อที่ไหน? คุณสามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรอง เช่น เว็บไซต์ RHINOSHIELD อย่างเป็นทางการ หรือร้านค้าออนไลน์ชั้นนำในประเทศไทย
จากข้อมูลข้างต้น วันเต่าโลกเป็นโอกาสที่ดีในการตระหนักถึงปัญหาของเต่าทั่วโลกและเต่าไทยใกล้สูญพันธุ์ โดยเฉพาะเต่าทะเลและเต่าพันธุ์หายาก ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์เต่าผ่านการลดขยะพลาสติก การปฏิเสธการสนับสนุนการค้าสัตว์ป่า และช่วยลดภาวะโลกร้อน เพื่อให้เต่าไทยยังคงเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติได้ต่อไป เต่าเป็นสัตว์ที่มีเอกลักษณ์และมีความสำคัญต่อระบบนิเวศ การเข้าใจชนิดของเต่าและลักษณะของเต่าจะช่วยให้เราตระหนักถึงความจำเป็นในการปกป้องและฟื้นฟูประชากรเต่าไทยให้คงอยู่ต่อไป