เผลอทำโทรศัพท์ตกกระแทกพื้นแต่ไม่แตก แปลว่าไม่เป็นอะไรจริงไหม?

​ความเสียหายแฝงจากการตก

โทรศัพท์ตกพื้นเป็นไรไหม? คำถามนี้มักผุดขึ้นมาในหัวทันทีที่ทำอุปกรณ์คู่ใจอย่างโทรศัพท์ตกพื้น พอหยิบขึ้นมาเห็นว่ามือถือตกแต่หน้าจอไม่แตกก็มักจะโล่งใจว่าโชคดีไป แต่รู้หรือไม่ว่าความเสียหายที่น่ากลัวที่สุดอาจแอบซ่อนอยู่ “ข้างในของเครื่อง” ที่คุณมองไม่เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีเคสกันกระแทกคอยซับแรงไว้ RHINOSHIELD จึงจะพาคุณไปเช็กจุดสำคัญที่อาจทำให้โทรศัพท์พังแบบเงียบ ๆ พร้อมแชร์ทริกเช็กอาการเบื้องต้น และแนะนำ airX เคสโทรศัพท์กันกระแทกที่ช่วยให้คุณไม่ต้องลุ้นทุกครั้งที่มือถือตก อย่าเพิ่งวางใจแค่เพราะจอยังใส มาเช็กให้ชัวร์ว่ามือถือของคุณ “รอดจริง” หรือ “แค่ยังไม่พังให้เห็น” ในบทความนี้กันเลย

โทรศัพท์ตกพื้นเป็นไรไหม อย่าเพิ่งวางใจก่อนเช็ก 5 จุดนี้ให้ครบ

โทรศัพท์ตกพื้นเป็นไรไหม? RHINOSHIELD ขอตอบเลยว่า หากคุณทำโทรศัพท์ตกพื้น แม้ภายนอกจะดูเหมือนไม่เป็นอะไร แต่ความเสียหายภายในอาจเกิดขึ้นแบบที่คุณไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในโทรศัพท์รุ่นใหม่ ๆ ที่ออกแบบให้บางลง เบาขึ้น แต่กลับอัดแน่นด้วยชิ้นส่วนเทคโนโลยีที่ซับซ้อน ทำให้แรงกระแทกจากมือถือตกเพียงครั้งเดียว อาจส่งผลต่อฮาร์ดแวร์สำคัญอย่างแบตเตอรี่ กล้อง หรือชิปประมวลผลได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม และยิ่งไม่มีเคสกันกระแทกหรือการป้องกันใด ๆ รองรับ แรงที่มือถือตกก็ยิ่งถูกส่งตรงเข้าตัวเครื่องแบบเต็ม ๆ


ดังนั้นเมื่อคุณทำโทรศัพท์ตกพื้น อย่าพึ่งรีบโล่งใจจนเกินไป ลองมาเช็กให้แน่ใจว่าโทรศัพท์ของคุณยังรอดจริงหรือไม่กับ 5 จุดเสี่ยงสำคัญที่อาจทำให้โทรศัพท์พังแบบเงียบ ๆ โดยไม่ทันสังเกต

1. แบตเตอรี่


แรงเมื่อโทรศัพท์ตกที่คุณคิดว่าเบา อาจส่งผลถึงแบตเตอรี่ที่ซ่อนอยู่ใต้ฝาหลังโดยตรง แม้จะมองไม่เห็นด้วยตา แต่หากโครงสร้างภายในของแบตบิดเบี้ยวหรือฉนวนภายในเสียหาย อาจนำไปสู่ปัญหาหนักอย่าง แบตบวม ลัดวงจร หรือเกิดการรั่วไหลของสารเคมีได้ โดยสัญญาณที่ควรระวังคือ มือถือแบตหมดเร็วกว่าปกติ ชาร์จไม่เข้า หรือปิดเครื่องเองแบบไม่มีสาเหตุ หากปล่อยไว้อาจลามไปถึงการทำงานของเครื่องทั้งหมดจนทำให้โทรศัพท์พัง

แบตเตอรี่โทรศัพท์เสื่อม

2.กล้อง


โทรศัพท์รุ่นใหม่มักมาพร้อมเทคโนโลยีกล้องสุดล้ำ ซึ่งเบื้องหลังประสิทธิภาพที่น่าทึ่งนั้นคือโครงสร้างภายในที่ซับซ้อน โดยเฉพาะระบบกันสั่น (OIS) และมอเตอร์ขนาดเล็กที่บอบบางต่อแรงกระแทกมากกว่าที่คิด แม้แรงที่โทรศัพท์ตกอาจไม่แรงพอทำให้เลนส์หรือกระจกแตก แต่ก็อาจส่งผลให้โครงสร้างกล้องเคลื่อนตัวเล็กน้อยได้ เพียงแค่นั้นก็เพียงพอจะทำให้ภาพถ่ายเบลอ โฟกัสหลุด หรือกล้องสั่นแบบที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นปัญหาจากแอป ทั้งที่ความจริงเป็นอาการเสียสมดุลจากแรงตกที่เริ่มส่งผลต่อระบบภายในของกล้องโดยตรง

กล้องโทรศัพท์

3. สัญญาณ


หลังจากทำโทรศัพท์ตก หากคุณเริ่มรู้สึกว่าเน็ตช้าลง Wi-Fi มักจะหลุดบ่อย หรือ GPS เพี้ยนไป อย่าเพิ่งรีบโทษผู้ให้บริการเครือข่าย เพราะปัญหาอาจไม่ได้มาจากภายนอก แต่อยู่ที่ภายในเครื่องของคุณเอง แรงกระแทกจากการที่มือถือตกอาจทำให้ชิปสื่อสารหรือเสาอากาศเคลื่อนตัว ไปจนถึงแตกร้าวได้ โดยเฉพาะบริเวณเมนบอร์ด ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อทั้งหมด ความเสียหายแบบนี้มักไม่แสดงอาการทันที แต่จะค่อย ๆ ทำให้การเชื่อมต่อในชีวิตประจำวันของคุณไม่เสถียรมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว

สัญญาณโทรศัพท์ไม่ดี
Image Source: Canva.com

4. ลำโพงและไมค์


เคยสังเกตไหมว่า อยู่ดี ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังเบาลง หรือปลายสายบ่นว่า “เสียงไม่ชัด” ถ้าเจออาการแบบนี้ อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นแค่ฝุ่นหรือความชื้น เพราะอาจเป็นสัญญาณที่เกิดจากแรงกระแทกเมื่อโทรศัพท์ตก ซึ่งส่งผลกระทบต่อชิ้นส่วนเสียงภายในอย่างลำโพงและไมโครโฟนที่ทำงานด้วยการสั่นสะเทือนอย่างละเอียดอ่อน ทำให้เสียงผิดเพี้ยน เบาลง หรือมีคลื่นรบกวน หากไม่รีบตรวจสอบและแก้ไข อาการเหล่านี้อาจรุนแรงขึ้นได้ในอนาคต

ลำโพงโทรศัพท์ไม่ชัด

5. ชิปประมวลผล


หัวใจของสมาร์ตโฟนคือชิปประมวลผลระดับนาโนเมตรที่ทำงานตลอดเวลา แม้ในขณะที่คุณเพียงเลื่อนหน้าจอ ซึ่งชิปเซตเหล่านี้มีความละเอียดและเปราะบางมาก แรงกระแทกจากโทรศัพท์ตกเพียงเล็กน้อยจึงอาจก่อให้เกิดรอยร้าวหรือความเสียหายภายในได้อย่างไม่คาดคิด โดยอาการอาจค่อย ๆ ปรากฏตามมา เช่น เครื่องค้าง ระบบช้าลง Restart เอง หรือแอปเด้งโดยไม่มีสาเหตุ นอกจากนี้สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือ ชิปประมวลผลไม่สามารถเปลี่ยนแยกได้ หากเกิดความเสียหายขึ้นมา อาจต้องเปลี่ยนเครื่องทั้งเครื่องเลยทีเดียว

ชิปโทรศัพท์
Image Source: Canva.com

ตอบทุกประเด็นที่หลายคนสงสัยกับ Q&A เมื่อเผลอทำโทรศัพท์ตกพื้น

โทรศัพท์ตกพื้นทีไร สิ่งที่ตามมาอาจไม่ใช่แค่ความตกใจ แต่คือสารพัดคำถามที่ผุดขึ้นมาทันที ต้องปิดเครื่องไหม? รีบเปิดดูหรือรอดูอาการ? ถ้าภายนอกไม่เป็นอะไร จะวางใจได้แค่ไหน? RHINOSHIELD จึงรวบรวม Q&A ที่หลายคนสงสัยเมื่อเจอเหตุการณ์นี้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้อง ทั้งวิธีเช็กเบื้องต้น เครื่องมือที่ใช้ได้ หรือสถานการณ์ไหนที่ควรรีบพาเครื่องเข้าศูนย์ อย่ารอให้ความเสียหายลุกลาม มาเตรียมรับมืออย่างมั่นใจไปพร้อมกับ RHINOSHIELD เลย

หลังจากโทรศัพท์ตกควรทำอะไรเป็นอย่างแรก?


เมื่อโทรศัพท์ตกกระแทกพื้น ไม่ควรรีบเปิดใช้งานทันที ควรหยุดเช็กเบื้องต้นอย่างรอบคอบเพื่อช่วยให้คุณตรวจจับความผิดปกติจากมือถือตกได้เร็วขึ้น ตลอดถึงป้องกันปัญหาลุกลามที่อาจตามมาได้


  • เช็กสภาพตัวเครื่อง มองหารอยแตกหรือรอยร้าว ตรวจสอบมุม ฝาหลัง หรือขอบตัวเครื่อง ว่าบิดงอหรือแตกหรือไม่
  • เปิด/ปิดเครื่อง : ลองรีสตาร์ทเพื่อตรวจสอบการบู๊ตระบบ
  • กล้อง : เปิดกล้องถ่ายรูป/วิดีโอ ตรวจสอบโฟกัสและภาพว่าเบลอหรือมีคราบฝ้า
  • การเชื่อมต่อ : ลองทดสอบสัญญาณ Wi-Fi, Bluetooth, 4G/5G
  • เสียงและลำโพง : ลองเปิดเพลงหรือโทรออกเพื่อเช็กคุณภาพเสียง
เช็คสภาพโทรศัพท์
Image Source: Canva.com

มีแอปหรือเครื่องมืออะไรช่วยเช็กได้มั้ย?

หากต้องการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยตัวเองว่าโทรศัพท์ตกพื้นเป็นไรไหม ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันและฟีเจอร์หลากหลายที่ช่วยทดสอบการทำงานของฮาร์ดแวร์ได้อย่างสะดวก ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญก็ตรวจสอบได้


  • Phone Doctor Plus / TestM: แอปฮิตที่รองรับการทดสอบหลายรายการ เช่น กล้อง หน้าจอ เซนเซอร์ ลำโพง และแบตเตอรี่ ช่วยค้นหาปัญหาที่มองไม่เห็นได้ในไม่กี่นาที

  • Apple Support App (IOS): ผู้ใช้ IOS 17 ขึ้นไปสามารถเข้าสู่โหมด Diagnostics ได้ผ่าน Apple Support App หรือกดปุ่มตามวิธีของ Apple เพื่อให้ระบบประเมินฮาร์ดแวร์เบื้องต้น

  • Samsung Members (Android/Samsung): บนมือถือ Samsung บางรุ่นสามารถกด *#0*# ในโทรศัพท์เพื่อเปิดเมนูทดสอบฮาร์ดแวร์ เช่น หน้าจอ กล้อง และเซนเซอร์ได้

ถ้าเครื่องดูปกติ แต่ไม่มั่นใจเลย ควรทำยังไง?


บางครั้งความเสียหายภายในจากโทรศัพท์ตกอาจยังไม่แสดงอาการทันที ฉะนั้นถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าโทรศัพท์ตกพื้นเป็นไรไหม ควรดำเนินการบางอย่างไว้ก่อน เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายหรือค่าใช้จ่ายสูงที่อาจตามมาในอนาคต


  • สำรองข้อมูลทันที ทั้งภาพ วิดีโอ และไฟล์สำคัญ

  • นำเครื่องเข้าศูนย์บริการ ให้ช่างช่วยตรวจสอบระบบภายในโดยละเอียด

  • ติดต่อแบรนด์โดยตรง เช่น Apple Support หรือ Samsung Service


หากเครื่องยังอยู่ในประกัน อย่าลืมแจ้งเหตุการณ์กับผู้ให้บริการ เพราะการแจ้งเหตุที่เร็วและให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนจะช่วยให้กระบวนการพิจารณาเคลมเป็นไปอย่างราบรื่น และอาจช่วยให้คุณประหยัดค่าซ่อมในกรณีที่ความเสียหายเข้าข่ายความคุ้มครองด้วย

ถ้าอาการยังไม่แสดง ควรรอก่อนดีไหม?


“อย่ารอ” เนื่องจากความเสียหายที่ซ่อนอยู่มักไม่แสดงอาการทันที โดยเฉพาะชิ้นส่วนอย่าง ชิปเซต กล้อง OIS หรือเสาสัญญาณ หากเริ่มมีอาการแม้เพียงเล็กน้อย เช่น เครื่องอืด กล้องสั่น ก็ควรรีบเช็กหรือสำรองข้อมูลไว้ก่อน เพราะค่าซ่อมที่ถูกวันนี้ อาจป้องกันค่าซื้อใหม่ที่แพงกว่าในวันหน้า

ป้องกันโทรศัพท์ตกยังไงให้เอาอยู่ทุกสถานการณ์ ปลอดภัยได้ทุกวัน

แน่นอนว่าการป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าการหาทางรับมือเมื่อความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว สำหรับใครที่กังวลกลัวโทรศัพท์พังจากการตกกระแทกโดยไม่ตั้งใจ ไม่อยากเสียทั้งเงินและเวลาไปกับการซ่อมหรือซื้อเครื่องใหม่ RHINOSHIELD ขอแนะนำแนวทางง่าย ๆ ในการป้องกันโทรศัพท์ตกตกพื้นให้ได้ผลจริง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เคสโทรศัพท์กันกระแทกคุณภาพสูงจาก RHINOSHIELD การติดฟิล์มกันรอย หรือเสริมด้วยอุปกรณ์ช่วยป้องกันอื่น ๆ สำหรับคนที่ยังลังเลว่าจะเริ่มป้องกันอย่างไรดี ใช้ RHINOSHIELD ดีไหม ลองมาดูเคล็ดลับที่ผู้ใช้มือถือทุกคนควรทำตั้งแต่ “วันแรกที่ถือเครื่อง” ก่อนที่จะต้องมานั่งเสียดายกันทีหลังไปพร้อมกันเลย

เลือกใช้ เคสกันกระแทก คุณภาพสูง เช่น เคสโทรศัพท์กันกระแทกจาก RHINOSHIELD ที่มีทั้งดีไซน์สวยงามให้เลือกแบบหลากหลาย คุณภาพแข็งแรงทนทาน เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์

ติดฟิล์มกันรอยหรือฟิล์มกระจกนิรภัยที่ได้มาตรฐาน ช่วยลดความเสียหายหากหน้าจอสัมผัสกับพื้นโดยตรง

ใช้สายคล้องโทรศัพท์หรือที่ยึดมือถือ (Phone Strap / Grip) เพิ่มความมั่นใจในการถือ ลดโอกาสหลุดมือเวลาถือโทรศัพท์มือเดียวหรือใช้ขณะเดิน

ไม่ใส่โทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าหลวม ๆ ร่วมกับของหนักหรือของมีคม เพราะอาจเกิดแรงกดทับหรือลื่นหลุดได้โดยไม่รู้ตัว

หมั่นตรวจสอบสภาพของเคสและฟิล์มอยู่เสมอ ถ้าเริ่มมีรอยแตกหรือเสื่อมประสิทธิภาพ ควรเปลี่ยนทันทีเพื่อให้การป้องกันยังคงทำงานได้ดี

จบปัญหาโทรศัพท์ตกพื้นเป็นไรไหม? ด้วยเคส AirX จาก RHINOSHIELD

เพราะโทรศัพท์ของคุณไม่ควรพังเพียงเพราะพลาดทำโทรศัพท์ตกตกแค่ครั้งเดียว airX เคสโทรศัพท์กันกระแทกใหม่ล่าสุดจาก RHINOSHIELD ที่จะยกระดับการปกป้องไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี Ultra-Cushioned เสมือนมี Airbag ครอบคลุมรอบเครื่อง ออกแบบมาเพื่อลดแรงกระแทกได้สูงสุดถึง 81% พร้อมวัสดุที่แข็งแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิมถึง 30 เท่า ทนต่อแรงตกกระแทกซ้ำได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้เคสกันกระแทก airX ยังมีชั้นอากาศ 2 ด้านที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกทั้งด้านข้างและมุมเครื่องได้แบบรอบด้าน มาพร้อมได้ด้วยดีไซน์เรียบเท่ เอาใจทุกไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ใครไม่อยากลุ้นทุกครั้งที่มือถือตก เคส airX จะเป็นคำตอบที่ตามหาแน่นอน


เชื่อว่าหลาย ๆ คนมักรู้สึกโล่งใจเมื่อเผลอทำโทรศัพท์ตกพื้น แต่เมื่อหยิบขึ้นมากลับไม่พบร่องรอยอะไร ส่งผลให้ละเลยเรื่องมือถือตกไปในที่สุดจนความเสียหายภายในค่อย ๆ สะสมกลายเป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้นอย่ารอให้โทรศัพท์พังแล้วจึงค่อยตั้งคำถามว่าโทรศัพท์ตกพื้นเป็นไรไหม ต้องแก้ยังไง คุณสามารถเริ่มปกป้องโทรศัพท์ได้ตั้งแต่วันนี้ด้วยเคสโทรศัพท์กันกระแทก airX ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเหนือระดับ ให้คุณใช้งานได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล ถ้าสนใจแต่ไม่รู้ RHINOSHIELD ซื้อที่ไหน ลองแวะเข้าเว็บไซต์ เลือกเคสกันกระแทกอันโปรด หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่ถูกใจใส่ตะกร้า เพื่อให้เราได้ช่วยดูแลอุปกรณ์คุณให้ใช้งานได้ยาวนาน ไร้รอยขีดข่วนเลย

เคสกันกระแทก ป้องกันความเสียหายภายใน AirX

สิ่งที่ไม่เห็น อาจเป็นสิ่งที่ทำให้โทรศัพท์พังในที่สุด อย่ารอให้พังแล้วค่อยป้องกัน ให้ AirX ช่วยดูแลมือถือของคุณได้แล้ววันนี้

เคสกันกระแทก AirX