จากขยะล้นโลกกลายเป็นมลพิษทางขยะ ปัญหาใหญ่ที่หลายคนยังมองข้าม
จำนวนขยะที่มากขึ้นในทุก ๆ วันกำลังจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกอย่างมลพิษทางขยะ ใครจะรู้ว่าคนเราสามารถสร้างขยะได้ประมาณ 1.14 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งทำให้ในหนึ่งวันมีขยะเกิดขึ้นอย่างมหาศาล โดยเฉพาะขยะจากพลาสติกหรือขยะแก้วพลาสติก ที่เราใช้สำหรับบรรจุเครื่องดื่ม ดังนั้นเพื่อเป็นการลดมลพิษทางขยะ แนวทางแก้ไขที่มีประสิทธิภาพสามารถเริ่มต้นได้จากตัวเรา
RHINOSHIELD ก็มองเห็นปัญหาดังกล่าวนี้ จึงอยากให้ทุกคนตระหนักและเรียนรู้เรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กัน และ RHINOSHIELD ก็ได้คิดค้นเคสรักษ์โลก CircularNext ที่เกิดขึ้นจากการรีไซเคิลเคสโทรศัพท์เก่าเพื่อลดขยะพลาสติก และเคสนี้ยังสามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ 100% อีกด้วย เพื่อเป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยลดมลพิษทางขยะให้กับโลกอีกด้วย
มลพิษทางขยะคืออะไร? ทำความเข้าใจก่อนที่จะสายเกินแก้
มลพิษทางขยะ คือ สิ่งของต่าง ๆ ที่เหลือทิ้ง เนื่องจากการเสื่อมสภาพจนไม่สามารถใช้การได้แล้ว หรืออาจจะเป็นสิ่งของที่ไม่ต้องการใช้งานแล้ว เมื่อถูกทิ้งแล้วมีการกำจัดที่ไม่ถูกต้องจนส่งผลให้เกิดอันตรายต่อธรรมชาติ มนุษย์ และสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ ซึ่งขยะแต่ละชนิดจะต้องมีวิธีการกำจัด หรือรีไซเคิลที่แตกต่างกันออกไป อย่างเคสโทรศัพท์ของ RHINOSHIELD ที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์วัสดุชิ้นเดียว ทำให้สามารถแยก Magsafe ออกมาเพื่อนำไปแยกรีไซเคิลได้อย่างง่ายดาย เพื่อช่วยลดมลพิษทางขยะ
สาเหตุที่เกิด มลพิษทางขยะ
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหามลพิษทางขยะ มีอยู่ 3 สาเหตุหลัก ดังนี้
- การทิ้งขยะไม่เป็นที่: สาเหตุนี้เกิดจากความมักง่ายและความไม่ใส่ใจของคนในการทิ้งขยะในที่ที่มีการจัดเตรียมไว้ให้ จึงทำให้เราเห็นขยะอยู่ตามแม่น้ำลำคลอง ท้องถนน หรือแม้แต่ทะเล เรียกได้ว่าทุกที่ที่จะจินตนาการได้ ซึ่งทำให้ไม่สามารถนำขยะเหล่านั้นมาจัดการอย่างถูกวิธีได้ทั้งหมด
- การใช้สิ่งของมากเกินจำเป็น: สิ่งที่พบเจอได้บ่อยครั้งในชีวิตประจำวันคือการที่เราซื้อสินค้าแล้วร้านค้ามีบรรจุภัณฑ์หลายชิ้น เช่น มีกล่อง มีซอง และยังใส่ถุงพลาสติกอีกชั้น ซึ่งทำให้เกิดขยะจากบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้ใช้เป็นจำนวนมาก
- การจัดการขยะไม่ดี: หลาย ๆ ครั้งการทิ้ง จัดเก็บ หรือการทำลายขยะมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอจึงทำให้มีขยะตกค้าง จนเกิดการหมักหมมเน่าเสีย เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียงที่ทิ้งขยะ
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากมลพิษทางขยะ มีมากกกว่าที่คุณคิด
RHINOSHIELD เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจากปัญหาปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้กลายเป็นมลพิษทางขยะนั้น ส่งผลกระทบในหลาย ๆ ด้านมากกว่าที่คุณคิดโดยเฉพาะกับสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ มาดูกันว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากมลพิษทางขยะ มีอะไรบ้าง?
เป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงและเชื้อโรค
ในขยะที่หมักหมมและไม่เกิดการกำจัดอย่างถูกวิธีจะกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเหล่าแมลงและสัตว์ที่มากินเสียอาหารหรือของเสียในกองขยะ เช่น หนู แมลงวัน แมลงหวี่ หนอน เป็นต้น ซึ่งสัตว์เหล่านี้ล้วนเป็นพาหะของเชื้อโรค จนอาจทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณนั้นเจ็บป่วยได้
ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
เรียกได้ว่าขยะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมเลยก็ว่าได้ เช่น ถ้าหากกองขยะมีถ่านไฟฉายถูกทิ้งอยู่ ก็จะทำให้มีโลหะหนัก ยิ่งไปกว่านั้นหากกองขยะอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำโลหะหนักเหล่านี้ก็จะถูกกระจายลงสู่แม่น้ำลำคลองเมื่อฝนตก รวมถึงดินในบริเวณนั้นก็จะได้รับการปนเปื้อน และการเผาขยะก็จะส่งผลเสียต่อสภาพอากาศบริเวณนั้น ๆ ไปจนถึงเป็นการมลพิษทางอากาศ ทั้งกลิ่นเหม็น และสารพิษที่ลอยฟุ้งในอากาศ
ก่อให้เกิดความรำคาญ
นอกจากผลกระทบด้านปัญหาสุขภาพที่ขยะนำมาซึ่งแหล่งพาหะของเชื้อโรคต่าง ๆ และสารพิษที่แทรกซึมอยู่ในทุกที่แล้ว ขยะยังสร้างความรำคาญใจให้กับคนที่พบเห็น รวมถึงบุคคลที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ กับบริเวณที่มีการทิ้งขยะก็จะยิ่งได้รับผลกระทบที่ก่อให้เกิดความรำคาญใจเป็นอย่างมาก
รู้มั้ยว่า? ขยะมูลฝอยก็เป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้เกิดมลพิษทางขยะ
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมลพิษทางขยะ นั่นก็คือขยะมูลฝอย ซึ่งเป็นขยะที่เกิดจากของเหลือหรือของที่ถูกใช้งานจนหมดสภาพทั้งจากกระบวนการผลิตและการอุปโภคบริโภค โดยเป็นได้ทั้งของแข็งหรือกากของเสีย ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และสัตว์นานาชนิด
ขยะมูลฝอยที่นำไปสู่การเกิดมลพิษทางขยะมักจะเกิดจาก 4 แหล่งหลัก ๆ ดังนี้
-
ที่พักอาศัย เช่น บ้าน คอนโด
-
สถานที่ทำการค้าขาย เช่น ตลาดสด ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า
-
พื้นที่ชุมชน เช่น สถานที่ราชการ โรงพยาบาล ศาสนสถาน และโรงเรียน
-
พื้นที่ก่อสร้าง และโรงงานอุตสาหกรรม
ประเภทของขยะมูลฝอย
มาดูกันว่าขยะมูลฝอยมีกี่ประเภทเพื่อที่เราจะได้รู้และนำไปปรับใช้กับการแยกและกำจัดขยะได้อย่างถูกต้อง เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้ยังคงอยู่และไม่เกิดมลพิษทางขยะมากขึ้น โดยขยะมูลฝอยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. ขยะมูลฝอยแบบเปียก
เป็นขยะที่มีความชื้นมากกว่า 50% จึงไม่ค่อยติดไฟ ส่วนใหญ่เป็นพวกเศษอาหาร เศษเนื้อ เศษผักผลไม้ มักจะมาจากบ้านเรือน ร้านอาหาร หรือตลาดสด ซึ่งขยะประเภทนี้มักจะเกิดกลิ่นเหม็นเน่าจากการย่อยสลาย นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์พาหะนำโรค เช่น หนู แมลงสาบ แมลงวัน เป็นต้น
2. ขยะมูลฝอยแบบแห้ง
เป็นขยะที่เกิดจากสิ่งเหลือใช้ที่มีความชื้นอยู่น้อย ไม่ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น ส่วนใหญ่จะเป็น แก้ว ผ้า เศษกระดาษ โลหะ ไม้ เหล็ก พลาสติก โดยเฉพาะ เคสโทรศัพท์ที่คนส่วนใหญ่ใช้และทิ้งได้ง่าย จึงทำให้ขยะมูลฝอยแบบแห้งเป็นขยะที่มีการถูกทิ้งมากที่สุด ซึ่งสามารถแยกย่อยลงไปได้อีกหลายประเภท เช่น เผาไหม้ได้และเผาไหม้ไม่ได้ รีไซเคิลได้และรีไซเคิลไม่ได้ จึงจำเป็นจะต้องมีการแยกประเภทก่อนทิ้ง
3. ขยะมูลฝอยอันตราย
เป็นขยะที่มีสารอันตรายเป็นส่วนประกอบ เช่น แบตเตอรี่ หลอดไฟ หรือสารเคมีต่าง ๆ ที่มีฤทธิ์กัดกร่อน หรืออาจเกิดการระเบิดได้ง่าย จึงทำให้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการจัดการและกำจัดขยะประเภทนี้
RHINOSHIELD ยึดหลัก 3R ในการสร้างสรรค์ระบบนิเวศหมุนเวียน
RHINOSHIELD ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและตระหนักถึงปัญหาของขยะพลาสติกที่เกิดจากเคสโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น RHINOSHIELD จึงได้สร้างสรรค์ระบบนิเวศหมุนเวียนโดยยึดหลัก 3R เพื่อทำให้เคสโทรศัพท์ของเราเป็นมิตรต่อธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งหลัก 3R มีดังต่อไปนี้
Rethink : สร้างสรรค์สิ่งใหม่ เพื่อโลกที่ยั่งยืน
RHINOSHIELD มีความพยายามในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่เพียงเคสโทรศัพท์แต่ยังรวมถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าทุกคน โดยที่ไม่ลืมเรื่องการสร้างโลกที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เราคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยลดมลพิษทางขยะให้ได้มากที่สุด
Redesign : เปลี่ยนขยะเป็นของมีค่า ด้วยการออกแบบ
เราไม่มองข้ามสิ่งของที่ไม่ใช้ประโยชน์แล้ว โดยเฉพาะเคสโทรศัพท์เก่าที่เมื่อเลิกใช้งาน จะกลายเป็นขยะพลาสติกที่ทำลายโลกในทันที RHINOSHIELD ได้นำเคสเก่ามาทำเป็นเคสใหม่ที่มีดีไซน์สวยงามจนแทบไม่รู้เลยว่ามาจากของที่ทุกคนมองว่าเป็นขยะ เพียงแค่การนำมาออกแบบใหม่จากขยะก็กลายเป็นของมีค่าได้หากเรามองเห็นคุณค่าจากมัน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับผลิตภัณฑ์ได้อีกทางหนึ่งด้วย
Rebirth : มอบชีวิตใหม่ให้กับวัสดุใช้แล้ว
ปัญหาที่ RHINOSHIELD ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับเคสโทรศัพท์ของตัวเอง คือเคสโทรศัพท์กลายเป็นขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ เราจึงได้เกิดเทคโนโลยีในการนำเคสโทรศัพท์เก่านำมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล จนเกิดเป็นเคสโทรศัพท์ใหม่ที่สามารถนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่าง 100% เรียกได้ว่าเป็นการมอบชีวิตใหม่ให้กับวัสดุใช้แล้วอย่างยั่งยืน
มาช่วยกันลดมลพิษทางขยะ ด้วยเคสโทรศัพท์ RHINOSHIELD
อย่างที่ได้บอกเสมอมาว่า RHINOSHIELD มองเห็นถึงปัญหาขยะล้นโลก จนกลายเป็นมลพิษทางขยะ จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวนี้ โดยสามารถเริ่มต้นจากตัวเราได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแยกขยะ หรือทิ้งขยะให้ถูกที่ รวมไปถึงการใช้เคสรักษ์โลกของ RHINOSHIELD รุ่น CircularNext ที่ทำมาจากการรีไซเคิลเคสเก่า และยังสามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ 100% มากถึง 6 ครั้ง เนื่องจากทำมาจากวัสดุชิ้นเดียว ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ทำให้คุณต้องเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น
ความคงทนระดับทหาร : สามารถดูดซับแรงกระแทกจากความสูง 3.5 เมตร มั่นใจว่าโทรศัพท์ของคุณปลอดภัยแน่นอน
ปลอดภัยจากสารอันตราย : ด้วยมาตรฐานบรรจุภัณฑ์เกรดอาหาร ปลอดภัยต่อทั้งเด็กและสัตว์เลี้ยง
รองรับ MagSafe ด้วยแรงดูดแม่เหล็ก 2 เท่า : มั่นใจได้เลยว่าโทรศัพท์มือถือของคุณจะไม่ร่วงหล่นจากอุปกรณ์เสริม
สีสันไม่ซ้ำใคร : มี 2 สีให้เลือกตามสไตล์ คือ Sky Peach และ Sky Violet ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก
ปัญหาเกี่ยวกับมลพิษทางขยะนับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญของโลก แต่ผู้คนอาจจะมองข้ามและคิดว่าไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะขยะจากพลาสติกหรือขยะแก้วพลาสติกที่มาจากการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งเราทุกคนสามารถช่วยมลพิษทางขยะ แนวทางแก้ไขที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ตั้งแต่การปลูกฝังจิตสำนึก การทิ้งขยะให้เป็นที่ และการแยกขยะอย่างถูกต้อง RHINOSHIELD เล็งเห็นปัญหาและต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการลดขยะด้วยเคสรุ่น CircularNext ที่ทำจากเคสโทรศัพท์เก่านำมารีไซเคิลและยังสามารถรีไซเคิลต่อได้อย่าง 100% อีกด้วย