แชร์วิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์เตรียมรับเทศกาลสงกรานต์

เทศกาลสงกรานต์ใกล้เข้ามาแล้ว หนึ่งเหตุการณ์ที่มักพบได้บ่อยในช่วงสงกรานต์นี้ก็คือการที่น้ำเข้าโทรศัพท์นั่นเอง ซึ่งคนที่เจอสถานการณ์นี้กับตัวเองอาจสงสัยว่ามีวิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์ยังไงบ้าง? น้ำเข้าโทรศัพท์ทำไงดี? ถ้าใช้งานเคสโทรศัพท์กันน้ำกับ สายคล้องโทรศัพท์กันน้ำ จะช่วยได้ไหม? วันนี้ทาง RHINOSHIELD ขอพาไปดูว่าน้ำเข้าโทรศัพท์ทำยังไงดี เพื่อที่จะได้สามารถรับมือกับปัญหาน้ำเข้าโทรศัพท์ที่อาจเกิดขึ้นจริงได้อย่างมีสติ

ปัญหาน้ำเข้าโทรศัพท์นี้เป็นอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งหากไม่ได้ใช้ เคสโทรศัพท์กันน้ำ แล้วเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็อย่าเพิ่งตกอกตกใจไป เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าจะมีวิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์อย่างไรได้บ้าง? เพื่อที่จะได้สามารถยืดอายุโทรศัพท์สุดรักไม่ให้จากเราไปเร็วกว่าที่ควรได้

ขั้นตอนแรกของวิธีแก้ไขปัญหาน้ำเข้าโทรศัพท์ก็คือการตั้งสติ อย่าเพิ่งช็อกหรือสติหลุดไป เพราะยิ่งโทรศัพท์เปียกน้ำนานเท่าไร น้ำก็อาจจะเข้าเครื่องมากขึ้น และความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย

ดังนั้นหากโทรศัพท์พลัดตกลงไปในถังน้ำให้รีบหยิบขึ้นมาให้เร็วที่สุด หรือหากเปียกจากการโดนสาดน้ำให้รีบทำให้โทรศัพท์แห้งให้ไวที่สุด โดยอาจใช้ผ้าหรือกระดาษซับน้ำทั้งด้านนอก ด้านใน และช่องพอร์ตต่าง ๆ ให้แห้งสนิท

หากว่าโทรศัพท์เปียกน้ำแต่เครื่องยังไม่ดับ ให้รีบทำการปิดเครื่องทันที เพื่อลดโอกาสการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟฟ้าช็อต ซึ่งจะทำให้ตัวเครื่องเกิดความเสียหาย และไม่แนะนำให้เปิดเครื่องในช่วงที่โทรศัพท์ยังเปียกอยู่หรือยังไม่มั่นใจว่าแห้งสนิทแล้ว

วิธีแก้ไขปัญหาน้ำเข้าโทรศัพท์ต่อมาคือให้ถอดส่วนประกอบของโทรศัพท์ออกเท่าที่สามารถทำได้ เช่น ถอดฝาหลัง แบตเตอรี่ ซิมการ์ด SD Card เพื่อให้สามารถเช็ดตัวเครื่องให้แห้ง ทำให้น้ำไม่ขังในตัวเครื่อง ทว่าหากไม่สามารถแกะฝาหลัง ถอดแบตเตอรี่ออกมาได้ ก็ให้ถอดเฉพาะซิมการ์ด SD Card เท่าที่สามารถถอดออกมาได้

ขั้นตอนต่อมาก็คือการนำโทรศัพท์และส่วนประกอบที่ถอดออกมาไปแช่ในถุงพลาสติกหรือกล่องที่บรรจุซองกันความชื้นหรือซิลิก้าเจล (Silica Gel) ประมาณ 2 วัน เพื่อดูดความชื้นออกจากโทรศัพท์ให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้

เมื่อได้ทำตามขั้นตอนวิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์จนมั่นใจว่าโทรศัพท์และส่วนประกอบต่าง ๆ แห้งสนิทแล้ว ให้ลองทำการประกอบแล้วเปิดเครื่องเพื่อตรวจสอบว่าโทรศัพท์สามารถใช้งานได้หรือไม่ มีปัญหาในส่วนใดหรือไม่ โดยอาจตรวจสอบทั้งเรื่องของการแสดงผลของหน้าจอ ระบบสัมผัสหน้าจอ ปุ่มกดต่าง ๆ กล้อง ลำโพง เป็นต้น

ในกรณีที่เปิดเครื่องเพื่อทำการตรวจสอบแล้วพบเจอปัญหาใด ๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในส่วนของหน้าจอและการแสดงผล ปัญหาในส่วนของเสียงอย่างลำโพงและไมค์ ปัญหาเรื่องกล้อง การถ่ายรูปและวิดีโอ ปุ่มกดไม่สามารถใช้งานได้ หรือปัญหาในเรื่องของการชาร์จแบต ให้รีบนำโทรศัพท์ส่งเข้าศูนย์ซ่อมให้เร็วที่สุด เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา ซ่อมแซมให้โทรศัพท์ของเรากลับมาใช้งานได้ดังเดิม

หลังจากที่ได้รู้วิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์ ได้รู้ว่าในกรณีที่ไม่ได้ใช้ เคสโทรศัพท์ กันน้ำแล้วเกิดเหตุการณ์น้ำเข้าโทรศัพท์ทำไงดีกันไปแล้ว ต่อมาทาง RHINOSHIELD ขอนำเสนอสิ่งที่ไม่ควรทำหรือควรหลีกเลี่ยงหากเกิดเหตุการณ์น้ำเข้าโทรศัพท์ เพื่อให้รู้ว่าเราควรหลีกเลี่ยงการทำอะไรบ้างให้โทรศัพท์ของเราสามารถฟื้นคืนชีพได้

พยายามอย่ากดปุ่มใด ๆ เพราะการใช้งานปุ่มกดนั้นเป็นการสั่งการให้วงจรเครื่องปล่อยกระแสไฟฟ้าเพื่อให้ทำงานตามที่เราต้องการ ซึ่งอาจเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟช็อตและสร้างความเสียหายต่อโทรศัพท์ของเราได้ 

การชาร์จแบตเตอรีเป็นสิ่งที่ห้ามทำโดยเด็ดขาดขณะที่โทรศัพท์ยังเปียกอยู่หรือเราไม่มั่นใจว่าเครื่องแห้งสนิทดีแล้ว เพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งอาจร้ายแรงถึงขั้นโทรศัพท์ระเบิด หรือเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นได้

การใช้ไดร์เป่าผมไม่เพียงแต่อาจจะดันน้ำให้เข้าลึกเข้าไปในตัวเครื่อง ซึ่งอาจทำให้วงจรภายในเครื่องเกิดความเสียหายได้เพียงเท่านั้น แต่ความร้อนจากไดร์เป่าผมยังสามารถสร้างความเสียหายต่อตัวเครื่องได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ไดร์เป่าผมเป่าโทรศัพท์ที่เปียกน้ำจะดีที่สุด

หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนเพื่อทำให้โทรศัพท์แห้ง ไม่ว่าจะเป็นการนำโทรศัพท์ไปตากแดดหรือนำโทรศัพท์เข้าไมโครเวฟ เพราะความร้อนจะทำให้แผงวงจรเสียหายได้ อีกทั้งการนำโทรศัพท์เข้าไมโครเวฟบอกเลยว่าโทรศัพท์ของเราพังอย่างแน่นอน

หลายคนอาจสงสัยว่าการนำโทรศัพท์ไปแช่ในข้าวสารไม่ใช่วิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์หรือ? ต้องขอบอกตรงนี้ว่าการนำโทรศัพท์ที่เปียกน้ำไปแช่ข้าวสารนั้นอาจทำให้น้ำที่ขังอยู่ภายในเครื่องไม่สามารถไหลออกมาจากเครื่องได้ อีกทั้งยังอาจเสี่ยงต่อการที่เมล็ดข้าวเล็ก ๆ เข้าไปติดอยู่ในโทรศัพท์ และทำให้ฝุ่นหรือแป้งที่มาจากเมล็ดข้าวเข้าไปสะสมอยู่ภายในเครื่องซึ่งอาจทำให้โทรศัพท์พังได้อีกด้วย

โดยในปัจจุบันนี้โทรศัพท์หลายรุ่น เช่น iPhone มีคุณสมบัติที่สามารถกันน้ำได้ภายในตัวหากไม่ได้แช่น้ำลึกหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน ทำให้สามารถหมดกังวลเรื่องโทรศัพท์พังตอนไปเล่นน้ำได้เลย สำหรับใครที่ไม่ชอบใส่อุปกรณ์ป้องกันอย่างซองกันน้ำ ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการกันน้ำด้วยเคสโทรศัพท์กันกระแทกจาก RHINOSHIELD ทั้ง 4 รุ่น อย่าง

• 🔹 Clear เคสใสไม่เหลืองง่าย โชว์สีเครื่องของคุณด้วยเคสที่มีความโปร่งใสสูง

• 🔹 JellyTint เคสใสสีกันกระแทก สีสันสดใสโดดเด่นกระแทกตาสไตล์ Y2K

• 🔹 Mod NX เคสแยกชิ้นส่วนที่สามารถถอดส่วนด้านหลังของเคสปรับแต่งได้อย่างไม่จำกัด

• 🔹 SolidSuit เคสกันกระแทกปกป้องรอบด้าน ที่มีความแข็งแกร่งทนทานทะลุขีดจำกัด

โดยเคสโทรศัพท์เหล่านี้ผลิตมาจากวัสดุพลาสติกที่ไม่ดูดซึมน้ำ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันน้ำได้เบื้องต้น ไม่ทำให้โทรศัพท์ของคุณเกิดความชื้น ลดโอกาสที่จะทำให้โทรศัพท์เครื่องสำคัญจากไปก่อนเวลาอันควรได้

นอกจากนี้แล้ว เมื่อช้อปเคสโทรศัพท์รุ่นต่าง ๆ เหล่านี้พร้อมกับ

• 🔹 สายคล้องรุ่น Hypoallergenic ที่ทั้งกันน้ำ กันเหงื่อ แถมยังมีที่ห้อยของเพิ่มเติมมาด้วย

• 🔹 การ์ดคล้องสาย

รับส่วนลดพิเศษไปเลยทันที ช่วยประหยัดไปได้มากกว่า 100 บาท อีกทั้งยังมีบริการจัดส่งฟรีแบบมาตรฐานเมื่อยอดช้อปครบ 1,400 บาท โดยสามารถเข้าไปค้นหาดีลและส่วนลดดี ๆ ก่อนสงกรานต์นี้ได้เลยที่ RHINOSHIELD เท่านั้น!

จะเห็นได้ว่าวิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์เบื้องต้นที่ทาง RHINOSHIELD ได้แนะนำไปนั้นทุกคนสามารถทำตามได้ไม่ยากโดยไม่ต้องเสิร์ชหาว่าน้ำเข้าโทรศัพท์ทำไงดีกันอีกต่อไป ซึ่งเราสามารถเตรียมตัวก่อนไปเล่นสงกรานต์เพื่อไม่ให้โทรศัพท์เครื่องสำคัญของเราเปียกน้ำด้วยการเลือกใช้ซองโทรศัพท์กันน้ำ เคสโทรศัพท์กันน้ำ สายคล้องโทรศัพท์กันน้ำ และวิธีอื่น ๆ ได้ บอกเลยว่าเพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าน้ำเข้าโทรศัพท์ทำยังไงดีอีกต่อไป