การเฉลิมฉลองให้กับการเป็นตัวของตัวเอง: เรื่องราวของ Dallin

 

ผมชื่อแดลลิน การเดินทางของผมในฐานะผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งกลุ่ม LGBTQ+ เต็มไปด้วยความท้าทายและการค้นพบตัวเองของผมนั้นเหมือนกับกำลังนั่งรถไฟเหาะ ในช่วงวัยเด็กผมเติบโตและอาศัยอยู่ในไต้หวัน นับตั้งแต่เด็กผมรู้สึกว่าตัวเองแตกต่างจากเพื่อน ๆ และในเมืองเล็ก ๆ ที่ผมเติบโตขึ้นมานั้น น้อยมากที่จะมีการพูดถึงเรื่องของความหลากหลายทางเพศ การได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและทัศนคติของคนในสังคมที่มีต่อกลุ่ม LGBTQ+ มีแต่จะเพิ่มความสับสนในตัวผมให้มากขึ้น ผมต้องพยายามต่อสู้อย่างหนักเพื่อที่จะทำความเข้าใจถึงตัวตนที่แท้จริงของผม

 

การค้นหาตัวเองและการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับตัวผม ในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย ผมต้องเผชิญกับความท้าทายเกี่ยวกับครอบครัว และมองหาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจด้วยการหันหน้าเข้าศาสนา โดยการเข้าร่วมเป็นสมาชิกมอรมอน แต่ทว่าการเป็นเกย์ในชุมชนของผู้เคร่งครัดในศาสนานั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ผมรู้สึกสับสนระหว่างการใช้ชีวิตที่ขัดแย้งกับตัวตนที่แท้จริงของผม และการพยายามทำตัวให้เป็นไปตามความคาดหวังของสังคม มันเป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกเกิดความขัดแย้งในจิตใจมากมาย และมันทำให้ผมรู้สึกไม่มีความสุขเลย

 

เมื่อผมได้ย้ายไปทำงานที่เมืองซานฟรานซิสโก ผมเปิดเผยให้ทุกคนรู้ว่าผมเป็นเกย์ ผมเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ผมเปิดกว้างให้กับชุมชนชาวเกย์ แต่ผมยังคงมีรู้สึกถูกกดดันจากทัศนคติและความคาดหวังบางอย่าง ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นชาวเอเชียของผม ในสังคมชาวเกย์ผมถูกเหยียดเรื่องเชื้อชาติ มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมยังคงต้องเดินทางตามหาที่ที่ให้การยอมรับและเหมาะกับผมต่อไป

 

เมื่อเวลาผ่านไป วุฒิภาวะที่มากขึ้นและการบำบัดช่วยให้ผมสามารถยอมรับตัวเองในทุก ๆ ด้านได้อย่างมั่นใจ มันคือกระบวนการของการค้นพบตัวเองและเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตในโลกที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและอคติ ผมได้ค้นพบพื้นที่ที่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็นและปลดปล่อยความกลัวออกมากจากการรับการบำบัด ซึ่งช่วยให้ผมเติบโตเป็นคนที่แข็งแกร่งมากขึ้น

 

การเป็น LGBTQ+ ส่งผลต่อทั้งชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานของผม ผมมีความเข้าใจและมีความเห็นใจมากขึ้นต่อผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับการถูกเลือกปฏิบัติและไม่ได้รับความสำคัญ ผมพยายามที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่มีความเข้าใจและการยอมรับที่ไม่เพียงแค่สำหรับกลุ่ม LGBTQ+ เพียงเท่านั้น แต่ผมยังคงพยายามที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรสำหรับทุกความแตกต่างที่หลากหลายอีกด้วย

 

ในด้านสังคมศาสตร์ ผมได้รับการยอมรับในระดับที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ที่สหรัฐอเมริกามีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป ที่นี่มีทั้งผู้ที่สนับสนุนและผู้ที่ต่อต้านกลุ่ม LGBTQ+ ในขณะที่ในไต้หวันมีค่านิยมในการใช้ชีวิตในแบบที่คุณต้องการ และเคารพในวิถีชีวิตของผู้อื่น แต่อย่างไรก็ตาม ที่นี่ยังคงมีปัจจัยเรื่องช่องว่างระหว่างวัยอยู่ ในส่วนของสวิตเซอร์แลนด์นั้นถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ค่อนข้างอนุรักษนิยม แต่ที่นี่กลับให้การยอมรับในความหลากหลายและไม่ได้ให้ความสนใจว่าคุณจะรักกับใครสักเท่าไหร่

 

เพื่อเป็นการสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ ควรมีนโยบายที่เฉพาะเจาะจง เพื่อปกป้องสิทธิของบุคคลข้ามเพศและขจัดการเลือกปฏิบัติออกไป ทั้งนี้นโยบายที่มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้คนโดยขึ้นอยู่กับอัตลักษณ์ทางเพศนั้นควรได้รับการตรวจสอบและแก้ไข

 

ในอนาคต ผมมีความหวังและปรารถนาที่จะเห็นกลุ่ม LGBTQ+ ได้รับความเสมอภาค การยอมรับ และความเคารพจากคนในสังคม ผมอยากเห็นโลกที่ผู้ที่มีความแตกต่างได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง โดยไม่กลัวว่าจะถูกเลือกปฏิบัติ หรือถูกตัดสินว่าสิ่งที่เป็นนั้นถูกหรือผิด การให้การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการค้นหาตัวตนของตนเองในกลุ่ม LGBTQ+ หรือผู้ที่ต้องเผชิญกับการถูกเรื่องปฏิบัตินั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ในการเดินทางเพื่อค้นพบตัวเองนั้นจำเป็นต้องมีความอดทน รู้จักที่จะสำรวจตัวเอง และให้ความรักต่อตนเองควบคู่ไปด้วยกันทั้งหมด

 

การสร้างสังคมเพื่อสร้างความเข้าใจและการยอมรับที่มากขึ้น จำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ที่ให้การสนับสนุนและสมาชิกกลุ่ม LGBTQ+ เราทุกคนจะช่วยเป็นกระบอกเสียงเพื่อต่อสู้กับการรังแกและการเลือกปฏิบัติ โดยการร่วมมือกันและช่วยกันส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เราสามารถสร้างสังคมที่ทุกคนรู้สึกได้ถึงคุณค่าในตัวเองและได้รับการยอมรับ

 

ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องราวของผมเป็นเพียงเสียงสะท้อนถึงความท้าทายและความสำเร็จในการค้นพบตัวเองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม LGBTQ+ เป็นเรื่องราวการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบตัวเอง การยอมรับตัวเอง และความพยายามร่วมกันในการสร้างโลกที่มีการยอมรับให้กับความหลากหลายมากขึ้น มาร่วมกันสนับสนุนซึ่งกันและกันในการสร้างอนาคตที่เฉลิมฉลองให้กับความหลากหลายและความรักที่ไร้ซึ่งขีดจำกัด