CircularBlue | โครงการริเริ่มของเราที่มุ่งคืนสมดุลให้ท้องทะเล

ในบทความก่อนหน้าเกี่ยวกับปัญหามลพิษจากพลาสติกและวิกฤตมหาสมุทร เราได้กล่าวถึงการที่กว่า 170 ประเทศทั่วโลก ได้ร่วมลงนามในถ้อยแถลงทางประวัติศาสตร์ “Our Ocean, Our Future: United for Urgent Action” ในการประชุม Nice Ocean Conference ที่ประเทศฝรั่งเศส ข้อตกลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงคำประกาศทางการทูต แต่คือการตอบสนองอย่างเร่งด่วนต่อวิกฤตมลพิษทางทะเลที่ทวีความรุนแรงขึ้น และเป็นสัญญาณชัดเจนถึงความจำเป็นในการเร่งเจรจาข้อตกลงระดับโลกว่าด้วยการจัดการพลาสติก

อย่างไรก็ตาม วิกฤตนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องประชุมระดับนานาชาติเท่านั้น
National Geographic รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจพบ ไมโครพลาสติกในเนื้อเยื่อสมองของมนุษย์ ซึ่งหมายความว่าพลาสติกได้แทรกซึมเข้าสู่มหาสมุทร วงจรอาหาร และย้อนกลับมาสู่ชีวิตประจำวันของเรา จากจานอาหารสู่กระแสเลือด และลึกไปถึงอวัยวะที่บอบบางที่สุดของร่างกาย

งานวิจัยของ World Wildlife Fund (WWF) ยังเผยว่า โดยเฉลี่ยแล้ว มนุษย์ทั่วโลกบริโภคพลาสติกประมาณ 5 กรัมต่อสัปดาห์ เทียบเท่ากับ “บัตรเครดิตหนึ่งใบ”
ไม่ว่าคุณจะรับประทานล็อบสเตอร์ในร้านอาหารหรูที่นิวยอร์ก ลิ้มรสซูชิในโตเกียว หรือเพลิดเพลินกับซีฟู้ดริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน “เศษพลาสติกที่มองไม่เห็น” เหล่านี้ได้แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเราโดยไม่รู้ตัวแล้ว

นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป แต่เป็น “ความจริงในชีวิต” ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขภาพของมนุษย์ทั่วโลก เมื่อมลพิษจากพลาสติกเชื่อมโยงกับสุขภาพของมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ความท้าทายจึงอยู่ที่การเปลี่ยนฉันทามติระดับนานาชาติให้กลายเป็น การลงมือทำจริง

สำหรับ RHINOSHIELD คำตอบคือ CircularBlue โครงการทดลองที่มีเป้าหมายเพื่อกำจัด “พลาสติกตกค้างในท้องทะเล” ผ่านเทคโนโลยีที่เปรียบเสมือน “หุ่นยนต์ดูดฝุ่นยักษ์แห่งมหาสมุทร”
มันผสานพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบตรวจจับด้วย AI และเทคโนโลยีเก็บกู้พลาสติกอัตโนมัติ ทำงานต่อเนื่องเพื่อเก็บขยะพลาสติกบนผิวน้ำ คล้ายเครื่องดูดฝุ่นสำหรับท้องทะเลโดยเฉพาะ

นี่ไม่ใช่เพียงอุปกรณ์ทำความสะอาด แต่คือ ระบบปกป้องมหาสมุทรแบบครบวงจร ที่มุ่งคืนความสมดุลให้กับโลกสีฟ้าที่เราทุกคนอาศัยร่วมกัน

“RHINOSHIELD จากผู้ผลิตเคสโทรศัพท์ มาสู่การเก็บกู้ขยะพลาสติกในมหาสมุทรได้อย่างไร?”

นี่เป็นคำถามที่ดี
ในวิดีโอแนะนำโครงการ CircularBlue ผู้ก่อตั้งและ CEO ของเรา Eric ได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนว่า

“แก่นของแบรนด์เราคือคำว่า ‘การปกป้อง’ นอกจากการปกป้องผลิตภัณฑ์แล้ว การปกป้องโลกก็เป็นหน้าที่ของเราด้วยเช่นกัน”

ความรู้สึกถึงความรับผิดชอบและทิศทางที่ชัดเจนนี้ คือแรงผลักดันที่ทำให้เราเลือกเผชิญหน้ากับวิกฤตขยะพลาสติกในท้องทะเลอย่างจริงจัง
เพราะในฐานะบริษัทที่ทำงานกับวัสดุพลาสติกทุกวัน เรามีมุมมองที่ลึกซึ้งกว่าผู้ใด พลาสติกคือวัสดุที่ทรงพลัง สามารถสร้างการปกป้องอุปกรณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นมลพิษที่คงอยู่อย่างยาวนานที่สุดในสิ่งแวดล้อม
เมื่อเราออกแบบและปรับโครงสร้างโมเลกุลของพลาสติกอย่างแม่นยำในห้องแล็บ เพื่อให้มันมีภารกิจในการปกป้องโทรศัพท์ เราก็เห็นอย่างชัดเจนเช่นกันว่า ทุกบริษัทที่สร้างผลิตภัณฑ์จากพลาสติก ควรรับผิดชอบต่อการจัดการขยะพลาสติกด้วย

ดังนั้น การขยายพันธกิจจาก “การปกป้องอุปกรณ์ส่วนตัว” ไปสู่ “การปกป้องสิ่งแวดล้อมของโลกที่เราทุกคนอาศัยร่วมกัน” คือหัวใจของภารกิจ RHINOSHIELD อย่างแท้จริง

แพลตฟอร์มลอยน้ำขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของสระว่ายน้ำนี้ ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยหลายระบบเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างระบบนิเวศการทำความสะอาดมหาสมุทรอย่างครบวงจร

• ระบบพลังงานแสงอาทิตย์: แผงโซลาร์เซลล์บนดาดฟ้าสามารถผลิตพลังงานสะอาดได้ตลอดเวลา ทำให้แพลตฟอร์มดำเนินงานได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานภายนอก

• เครือข่าย AI ตรวจจับอัจฉริยะ: โดรน AI บินลาดตระเวนเหนือทะเล ทำหน้าที่สแกนและตรวจจับขยะในทะเลอย่างแม่นยำ

• ระบบเก็บกู้ขยะอัตโนมัติ: เรือผิวน้ำจะรับคำสั่งและเคลื่อนที่อย่างอัตโนมัติ ทำงานเก็บขยะในทะเลด้วยความแม่นยำราวกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษทางน้ำ

• ดาดฟ้าปฏิบัติการอเนกประสงค์: พื้นที่ศูนย์กลางที่รวมการตรวจวัดคุณภาพน้ำ การซ่อมบำรุงประจำวัน และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไว้ในจุดเดียว

• ห้องแล็บทางทะเลลอยน้ำ: ภายในติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดขั้นสูงสำหรับติดตามการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำและสภาวะสุขภาพของระบบนิเวศทางทะเลแบบเรียลไทม์

• โครงสร้างโมดูลาร์เพื่อความมั่นคง: โครงสร้างแบบเสาหลักหกต้นช่วยเพิ่มความมั่นคงให้แพลตฟอร์ม และทนต่อสภาพอากาศหลากหลายรูปแบบในทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบทั้งหมดสามารถควบคุมได้จากศูนย์ควบคุมกลาง เพื่อประสานการทำงานของแต่ละส่วนให้ดำเนินไปอย่างแม่นยำ เป็นการจำลอง “ปฏิบัติการทำความสะอาดมหาสมุทร” ที่ครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับ RHINOSHIELD “การปกป้อง” ไม่ได้เป็นเพียงฟังก์ชันของผลิตภัณฑ์ แต่คือ “ความรับผิดชอบที่ต่อเนื่องและยั่งยืน”

จากเคสโทรศัพท์ที่ผ่านการออกแบบอย่างแม่นยำเพื่อกันกระแทก ไปจนถึงแพลตฟอร์มเก็บกู้ขยะในมหาสมุทร เรากำลังลงมือปฏิบัติในแนวคิดเดียวกัน คือการปกป้องที่แท้จริงต้องครอบคลุมทั้งระบบนิเวศ ตั้งแต่การดูแลอุปกรณ์ส่วนตัวไปจนถึงสิ่งแวดล้อมของโลก

CircularBlue คือวิวัฒนาการตามธรรมชาติของพันธกิจนี้ ที่ขยายความหมายของคำว่า “การปกป้อง” จากฟังก์ชันของผลิตภัณฑ์ ไปสู่ “ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม” อย่างแท้จริง

เรากำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า นวัตกรรมขององค์กรสามารถแก้ปัญหาทางธุรกิจและวิกฤตสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันได้ สร้างความสำเร็จทั้งในเชิงพาณิชย์และคุณค่าทางสังคมในเวลาเดียวกัน

CircularBlue คือเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เกาะกลางมหาสมุทรแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของแนวคิดองค์กรรูปแบบใหม่ เมื่อเราเริ่มตั้งคำถามกับขอบเขตของคำว่า “การปกป้อง” ความเป็นไปได้ของนวัตกรรมก็ขยายออกไปอย่างไร้ขีดจำกัด เพราะการปกป้องที่แท้จริง ไม่เคยหมายถึงแค่ “ฟังก์ชัน” ของผลิตภัณฑ์

แต่มันคือ พันธกิจ ความรับผิดชอบ และคำมั่นต่ออนาคต

เราขอเชิญคุณมาร่วมเป็นพยานกับการเดินทางครั้งนี้ การที่ความหมายของ “การปกป้อง” ขยายออกจากอุปกรณ์ส่วนตัว สู่การดูแลทั้งโลกใบนี้ และร่วมกันนิยามใหม่ว่า “การปกป้องอย่างแท้จริง” คืออะไร

References & Sources:

1. National Geogaphic (Alarming levels of microplastics found in human brains). https://www.natgeomedia.com/science/article/content-17895.html (Feb. 4 2025)

2. CNN Health (the World Wildlife Fund (WWF): You could be swallowing a credit card’s weight in plastic every week). https://edition.cnn.com/2019/06/11/health/microplastics-ingestion-wwf-study-scn-intl/index.html (June 17, 2019)